A small tool to view real-world ActivityPub objects as JSON! Enter a URL
or username from Mastodon or a similar service below, and we'll send a
request with
the right
Accept
header
to the server to view the underlying object.
{
"@context": "https://www.w3.org/ns/activitystreams",
"type": "OrderedCollectionPage",
"orderedItems": [
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:679037980865732609",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"content": "การเข้าจัดการกับพื้้นที่วัดธรรมกายนั้นมีการวางแผนกันมาอย่าง ( เลว ! ) เพราะ ได้รับคำสั่งจากไอ้มหาเดร์ ให้รัฐบาลมุสลิมรีบๆ ดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพื่อที่จะเอาพื้นที่ทั้งหมดในบริเวณวัดธรรมกายแห่งนี้ ทำเป็นศูนย์กลางศาสนาอิสลามของเอเชียเลย และ การทำลายตัวพระทิ้งก็อยู่ในนโยบายยึดครองประเทศไทย ( 49 ) ข้อ อยู่แล้ว ในรายละเอียด ให้ฆ่าพระ และ เผาวัดไทย วัดใด ที่เผาแล้ว ทุกวัด ห้ามสร้างใหม๋ ให้สร้างมัสยิดขึ้นมาแทน เพราะฉะนั้น ต่อไป ไทย ควรสังวรณ์ไว้ว่า ตำแหน่งสำคัญๆของประเทศไม่ควรให้ มุสลิมเป็นเด็ดขาด ! มันมีตัวอย่างมาหลายประเทศแล้ว ที่ให้เป็นแล้ว เขาจะสามารถ \"สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา กระทำการอย่างใดก็ได้ และ DSI ก็บอกเพียงว่าเป็น เจ้าหน้าที่ ที่เข้ามาบังคับใช้กฏหมายให้สมบูรณ์ โดย ใช้ ม. 44 เข้าควบคุมพื้นที่วัดทั้งหมด ซึ่ง ปากก็เคยบอกว่า จะไม่ใช้กำลังและความรุนแรง แต่ DSI ก็ตกอยู่ภายใต้ การบังคับบัญชาของคณะปฏิวัติ ! ที่ปฏิบัติหน้าที่ ตามคำสั่งการที่ผิดๆ ถือว่า ใช้ไม่ได้ ยิ่งนาย สรรเสริญยิ่งแล้้ว บอกมาได้ เห็นใจ ตำรวจ และ DSI ไอ้เหี้ย แทนที่่จะ เห็นใจพระภิกษุหรือสามเณร ไอ้ชาติหมา ! <br /><br />\"ราชศักดิ์ ปิยปัญญานนท์\"",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/679037980865732609",
"published": "2017-02-16T18:54:29+00:00",
"source": {
"content": "การเข้าจัดการกับพื้้นที่วัดธรรมกายนั้นมีการวางแผนกันมาอย่าง ( เลว ! ) เพราะ ได้รับคำสั่งจากไอ้มหาเดร์ ให้รัฐบาลมุสลิมรีบๆ ดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพื่อที่จะเอาพื้นที่ทั้งหมดในบริเวณวัดธรรมกายแห่งนี้ ทำเป็นศูนย์กลางศาสนาอิสลามของเอเชียเลย และ การทำลายตัวพระทิ้งก็อยู่ในนโยบายยึดครองประเทศไทย ( 49 ) ข้อ อยู่แล้ว ในรายละเอียด ให้ฆ่าพระ และ เผาวัดไทย วัดใด ที่เผาแล้ว ทุกวัด ห้ามสร้างใหม๋ ให้สร้างมัสยิดขึ้นมาแทน เพราะฉะนั้น ต่อไป ไทย ควรสังวรณ์ไว้ว่า ตำแหน่งสำคัญๆของประเทศไม่ควรให้ มุสลิมเป็นเด็ดขาด ! มันมีตัวอย่างมาหลายประเทศแล้ว ที่ให้เป็นแล้ว เขาจะสามารถ \"สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา กระทำการอย่างใดก็ได้ และ DSI ก็บอกเพียงว่าเป็น เจ้าหน้าที่ ที่เข้ามาบังคับใช้กฏหมายให้สมบูรณ์ โดย ใช้ ม. 44 เข้าควบคุมพื้นที่วัดทั้งหมด ซึ่ง ปากก็เคยบอกว่า จะไม่ใช้กำลังและความรุนแรง แต่ DSI ก็ตกอยู่ภายใต้ การบังคับบัญชาของคณะปฏิวัติ ! ที่ปฏิบัติหน้าที่ ตามคำสั่งการที่ผิดๆ ถือว่า ใช้ไม่ได้ ยิ่งนาย สรรเสริญยิ่งแล้้ว บอกมาได้ เห็นใจ ตำรวจ และ DSI ไอ้เหี้ย แทนที่่จะ เห็นใจพระภิกษุหรือสามเณร ไอ้ชาติหมา ! \n\n\"ราชศักดิ์ ปิยปัญญานนท์\"",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:679037980865732609/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:632079429517975557",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"content": "Los Angeles Oct 5, 2016. One day before the speaking event at Loyola Marymount University, the formal Thailand's Prime Minister meet with Red-USA and other pro-democracy groups. Red-USA presented the Greatest Achievement Award to Dr Thaksin Shinawatra.",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/632079429517975557",
"published": "2016-10-10T04:57:55+00:00",
"source": {
"content": "Los Angeles Oct 5, 2016. One day before the speaking event at Loyola Marymount University, the formal Thailand's Prime Minister meet with Red-USA and other pro-democracy groups. Red-USA presented the Greatest Achievement Award to Dr Thaksin Shinawatra.",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:632079429517975557/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:629619932350390285",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"content": "🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯<br /><br />ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ซอกมุมใหนทั่วโลก ก็สามารถทำใด้ ใช้เวลาว่างสร้างรายใด้ง่ายๆค่ะ โอกาสมาถึงแล้วอย่าพลาดนะคะ<br />Online Social Media Marketing \"Business On Mobile\" <br />สร้างรายได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส <br />ไม่ต้องขาย <br />ไม่ต้องขอ <br />ไม่ต้องง้อคน <br />ไม่ต้องตื้อ <br />อยากรู้เคล็ดลับ 13ขั้นตอน <br />พิชิตเงินล้านกด <a href=\"http://line.me/ti/p/~MALEEBLUENEWS09\" target=\"_blank\">http://line.me/ti/p/~MALEEBLUENEWS09</a><br /><br />\"ขยันน่ะเป็นเรื่องดี แต่ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย\" คุณกำลังมองหาโอกาสอยู่ไช่ใหมเพียงคลิ๊กตามลิ้งค์ด้านล่างแอดไลน์มาคุยกันครับ Online Social Media Marketing \"Business On Mobile\" สร้างรายได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส ไม่ต้องขาย ไม่ต้องขอ ไม่ต้องง้อคน ไม่ต้องตื้อ อยากรู้เคล็ดลับ 13ขั้นตอน พิชิตเงินล้านกด <a href=\"http://line.me/ti/p/~THINKBIG555\" target=\"_blank\">http://line.me/ti/p/~THINKBIG555</a> <br /><a href=\"https://www.minds.com/search?f=top&t=all&q=ใส่คำแล้วแชร์\" title=\"#ใส่คำแล้วแชร์\" class=\"u-url hashtag\" target=\"_blank\">#ใส่คำแล้วแชร์</a>",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/629619932350390285",
"published": "2016-10-03T10:04:46+00:00",
"source": {
"content": "🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯 🎯💯 - ขยันถูกที่ ปีเดียวรวย - 💯\n\nไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ซอกมุมใหนทั่วโลก ก็สามารถทำใด้ ใช้เวลาว่างสร้างรายใด้ง่ายๆค่ะ โอกาสมาถึงแล้วอย่าพลาดนะคะ\nOnline Social Media Marketing \"Business On Mobile\" \nสร้างรายได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส \nไม่ต้องขาย \nไม่ต้องขอ \nไม่ต้องง้อคน \nไม่ต้องตื้อ \nอยากรู้เคล็ดลับ 13ขั้นตอน \nพิชิตเงินล้านกด http://line.me/ti/p/~MALEEBLUENEWS09\n\n\"ขยันน่ะเป็นเรื่องดี แต่ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย\" คุณกำลังมองหาโอกาสอยู่ไช่ใหมเพียงคลิ๊กตามลิ้งค์ด้านล่างแอดไลน์มาคุยกันครับ Online Social Media Marketing \"Business On Mobile\" สร้างรายได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส ไม่ต้องขาย ไม่ต้องขอ ไม่ต้องง้อคน ไม่ต้องตื้อ อยากรู้เคล็ดลับ 13ขั้นตอน พิชิตเงินล้านกด http://line.me/ti/p/~THINKBIG555 \n#ใส่คำแล้วแชร์",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:629619932350390285/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:628095163977179136",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"content": "ผู้หญิงคนนี้ แค่ประกาศต้องการชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี<br />ผู้หญิงคนนี้ ก็ถูกฝ่ายตรงข้ามดูถูกเป็นแค่สมันน้อย<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ใช้เวลาหาเสียงแค่ 49 วัน<br />แล้วผู้หญิงคนนี้ ก็สามารถชนะเลือกตั้งเหนืออดีตนายกฯที่ทำงานการเมืองกว่า 20 ปี<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทย<br />แต่ผู้หญิงคนนี้ ก็พบกับการดูถูกดูแคลนว่าไม่สามารถอยู่ครบ 6 เดือน<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ เข้ามาด้วยความมุ่งมั่นจะแก้ไขโดยไม่แก้แค้น<br />แต่ผู้หญิงคนนี้ กลับถูกฝ่ายตรงข้ามทั้งโจมตีและกล่าวหา<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ถูกหยามหมิ่นว่าเป็นหญิงโง่<br />แต่ผู้หญิงคนนี้ กลับสามารถกระชากหน้ากากเหล่าคนดีออกมาแทบหมดสิ้น<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ถูกเยาะเย้ยเรื่องพูดผิดพูดถูก<br />แต่ผู้หญิงคนนี้ กลับทำให้เหล่าคนดีเผยธาตุแท้ด้วยถ้อยคำลามกจกเปรต<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ถูกหัวเราะเยาะว่าเป็นแค่นางโพย<br />แต่ผู้หญิงคนนี้ กลับสามารถสื่อสารกับผู้นำนานาประเทศโดยไม่ผ่านล่าม<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ถูกหยามเกียรติศักดิ์ศรีความเป็นหญิง<br />แต่ผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยแม้จะตอบโต้ให้ขุ่นเคือง<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตีด้วยข้อมูลเท็จ<br />ผู้หญิงคนนี้ แค่อธิบายโดยไม่โจมตีกลับ<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ถูกสบปรามาสว่าไร้ความสามารถ<br />ผู้หญิงคนนี้ ก็ทำให้เหล่าคนดีต้องสุมหัวกันใช้อำนาจนอกระบบเพื่อล้มเธอ<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ เสียน้ำตาที่ไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย<br />แต่ผู้หญิงคนนี้ กลับไม่เคยหวั่นไหวกับสารพัดข้อกล่าวหา<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ พูดแต่ประชาชนเลือกเข้ามา<br />แล้วผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยพูดยอมเสียสละเพื่อชาติ<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ก้มหน้าทำงานมากกว่าเงินเดือนที่ได้รับ<br />แล้วผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยอ้างเพื่อแทนคุณแผ่นดิน<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ไม่เคยยกตนเป็นคนดี<br />แล้วผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยชี้หน้าว่าใครเป็นคนเลว<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ถูกกดดันจากทั่วสารทิศให้ลาออก<br />แต่ผู้หญิงคนนี้ กลับสู้ไม่ถอยเพื่อรักษาประชาธิปไตย<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ถูกกล่าวหาเรื่องแทรกแซงราคาข้าว<br />ผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยยกเรื่องแทรกแซงราคายางขึ้นมาตอบโต้<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ถูกกล่าวหาเรื่องจำนำข้าวทำให้ขาดทุน<br />ผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยนำเรื่องขายยางขาดทุนมาเทียบเคียง<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ถูกกล่าวหาเรื่องรถคันแรกทำให้เศรษฐกิจย่อยยับ<br />ผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่คิดนำเรื่องลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์มาเอ่ยอ้าง<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ กำลังจะถูกยึดทรัพย์ด้วยข้อหาไม่ระงับยับยั้งโครงการที่มีการทุจริต<br />ผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยนำผู้นำอื่นที่โครงการเต็มไปด้วยทุจริตมาเปรียบเทียบ<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ไม่เคยปรากฏเรื่องการทุจริต<br />แต่ผู้หญิงคนนี้ ต้องถูกยึดทรัพย์เพราะทำตามนโยบายที่แถลง<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ถูกกล่าวหาใช้ประชานิยมทำให้ชาติเสียหาย<br />ผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยพูดถึงการทุ่มเม็ดเงินสู่กองทุนหมู่บ้าน<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ไม่เคยได้รับโอกาสออกสื่อเพื่อชี้แจง<br />ผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยเรียกร้องขอความเห็นใจ<br /><br />ผู้หญิงคนนี้ ทั้งๆที่รู้ความยุติธรรมหาได้ยาก<br />ผู้หญิงคนนี้ ก็ยังพร้อมจะสู้ตามกระบวนการ<br /><br />และผู้หญิงคนนี้ ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อทำงานให้กับคนยากจน<br />แต่ผู้หญิงคนนี้ กลับไม่เคยขอให้ประชาชนออกมาช่วยเหลือ<br /><br />ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้หญิงคนนี้ ทำให้ผู้ชายมากมายต้องหวั่นเกรง<br />นั่นเพราะผู้หญิงคนนี้ นับวันมีแต่กำหัวใจประชาชนมากขึ้นเป็นทวีคูณ<br /> ผู้หญิงคนนี้เป็นใครอื่นไปไม่ได้ นอกจากคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สตรีหัวใจเหล็ก คนนี้นี่เอง..!! <br /><br /><a class=\"u-url mention\" href=\"https://www.minds.com/MaleeblueNews09\" target=\"_blank\">@MaleeblueNews09</a>",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/628095163977179136",
"published": "2016-09-29T05:05:53+00:00",
"source": {
"content": "ผู้หญิงคนนี้ แค่ประกาศต้องการชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี\nผู้หญิงคนนี้ ก็ถูกฝ่ายตรงข้ามดูถูกเป็นแค่สมันน้อย\n\nผู้หญิงคนนี้ ใช้เวลาหาเสียงแค่ 49 วัน\nแล้วผู้หญิงคนนี้ ก็สามารถชนะเลือกตั้งเหนืออดีตนายกฯที่ทำงานการเมืองกว่า 20 ปี\n\nผู้หญิงคนนี้ ดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทย\nแต่ผู้หญิงคนนี้ ก็พบกับการดูถูกดูแคลนว่าไม่สามารถอยู่ครบ 6 เดือน\n\nผู้หญิงคนนี้ เข้ามาด้วยความมุ่งมั่นจะแก้ไขโดยไม่แก้แค้น\nแต่ผู้หญิงคนนี้ กลับถูกฝ่ายตรงข้ามทั้งโจมตีและกล่าวหา\n\nผู้หญิงคนนี้ ถูกหยามหมิ่นว่าเป็นหญิงโง่\nแต่ผู้หญิงคนนี้ กลับสามารถกระชากหน้ากากเหล่าคนดีออกมาแทบหมดสิ้น\n\nผู้หญิงคนนี้ ถูกเยาะเย้ยเรื่องพูดผิดพูดถูก\nแต่ผู้หญิงคนนี้ กลับทำให้เหล่าคนดีเผยธาตุแท้ด้วยถ้อยคำลามกจกเปรต\n\nผู้หญิงคนนี้ ถูกหัวเราะเยาะว่าเป็นแค่นางโพย\nแต่ผู้หญิงคนนี้ กลับสามารถสื่อสารกับผู้นำนานาประเทศโดยไม่ผ่านล่าม\n\nผู้หญิงคนนี้ ถูกหยามเกียรติศักดิ์ศรีความเป็นหญิง\nแต่ผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยแม้จะตอบโต้ให้ขุ่นเคือง\n\nผู้หญิงคนนี้ ถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตีด้วยข้อมูลเท็จ\nผู้หญิงคนนี้ แค่อธิบายโดยไม่โจมตีกลับ\n\nผู้หญิงคนนี้ ถูกสบปรามาสว่าไร้ความสามารถ\nผู้หญิงคนนี้ ก็ทำให้เหล่าคนดีต้องสุมหัวกันใช้อำนาจนอกระบบเพื่อล้มเธอ\n\nผู้หญิงคนนี้ เสียน้ำตาที่ไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย\nแต่ผู้หญิงคนนี้ กลับไม่เคยหวั่นไหวกับสารพัดข้อกล่าวหา\n\nผู้หญิงคนนี้ พูดแต่ประชาชนเลือกเข้ามา\nแล้วผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยพูดยอมเสียสละเพื่อชาติ\n\nผู้หญิงคนนี้ ก้มหน้าทำงานมากกว่าเงินเดือนที่ได้รับ\nแล้วผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยอ้างเพื่อแทนคุณแผ่นดิน\n\nผู้หญิงคนนี้ ไม่เคยยกตนเป็นคนดี\nแล้วผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยชี้หน้าว่าใครเป็นคนเลว\n\nผู้หญิงคนนี้ ถูกกดดันจากทั่วสารทิศให้ลาออก\nแต่ผู้หญิงคนนี้ กลับสู้ไม่ถอยเพื่อรักษาประชาธิปไตย\n\nผู้หญิงคนนี้ ถูกกล่าวหาเรื่องแทรกแซงราคาข้าว\nผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยยกเรื่องแทรกแซงราคายางขึ้นมาตอบโต้\n\nผู้หญิงคนนี้ ถูกกล่าวหาเรื่องจำนำข้าวทำให้ขาดทุน\nผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยนำเรื่องขายยางขาดทุนมาเทียบเคียง\n\nผู้หญิงคนนี้ ถูกกล่าวหาเรื่องรถคันแรกทำให้เศรษฐกิจย่อยยับ\nผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่คิดนำเรื่องลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์มาเอ่ยอ้าง\n\nผู้หญิงคนนี้ กำลังจะถูกยึดทรัพย์ด้วยข้อหาไม่ระงับยับยั้งโครงการที่มีการทุจริต\nผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยนำผู้นำอื่นที่โครงการเต็มไปด้วยทุจริตมาเปรียบเทียบ\n\nผู้หญิงคนนี้ ไม่เคยปรากฏเรื่องการทุจริต\nแต่ผู้หญิงคนนี้ ต้องถูกยึดทรัพย์เพราะทำตามนโยบายที่แถลง\n\nผู้หญิงคนนี้ ถูกกล่าวหาใช้ประชานิยมทำให้ชาติเสียหาย\nผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยพูดถึงการทุ่มเม็ดเงินสู่กองทุนหมู่บ้าน\n\nผู้หญิงคนนี้ ไม่เคยได้รับโอกาสออกสื่อเพื่อชี้แจง\nผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยเรียกร้องขอความเห็นใจ\n\nผู้หญิงคนนี้ ทั้งๆที่รู้ความยุติธรรมหาได้ยาก\nผู้หญิงคนนี้ ก็ยังพร้อมจะสู้ตามกระบวนการ\n\nและผู้หญิงคนนี้ ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อทำงานให้กับคนยากจน\nแต่ผู้หญิงคนนี้ กลับไม่เคยขอให้ประชาชนออกมาช่วยเหลือ\n\nดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้หญิงคนนี้ ทำให้ผู้ชายมากมายต้องหวั่นเกรง\nนั่นเพราะผู้หญิงคนนี้ นับวันมีแต่กำหัวใจประชาชนมากขึ้นเป็นทวีคูณ\n ผู้หญิงคนนี้เป็นใครอื่นไปไม่ได้ นอกจากคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สตรีหัวใจเหล็ก คนนี้นี่เอง..!! \n\n@MaleeblueNews09",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:628095163977179136/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627696332013838336",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"content": "วันหนึ่งคนเราต้องตาย…นี่อาจจะเป็นหนึ่งในประโยคที่ดูมีพลังที่สุดเวลามีคนอื่นพูดกับเรา..,<br />“รู้สึกชนะที่ใช้ชีวิตของคุณได้คุ้มค่าแล้ว” หรือ “เสียใจที่ไม่ได้ทำในหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่าง”<br /><br />วันนี้เราเอา \"20 ความเสียใจ” <br />จากคนใกล้ตายที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณมาฝากกัน...<br /><br />1.เสียใจที่ไปเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่นๆ<br />ทุกคนต้องเคยผ่านจุดนี้ และคนที่ยังทำอยู่ มันไม่มีประโยชน์เลย และมีแต่จะบั่นทอนความรู้สึกเติมเต็มในชีวิตคุณ แทนที่จะเปรียบเทียบกับใครก็ตาม ให้คิดว่าเรามาไกลแค่ไหนแล้ว เราทำอะไรไปแล้วที่ส่งผลต่อเป้าหมายของเราบ้าง จะดีกว่า<br /><br />2.เสียใจที่ไม่ทำสิ่งที่ต้องการ<br />สิ่งหนึ่งที่คุณต้องรู้คือไม่ว่าอะไรก็ตาม มันไม่มี “วิธีที่ถูกต้อง” เสมอหรอ บางทีเราต้องทำมัน เริ่มมัน แล้วคุณจะรู้เองว่ามันจะได้ผลหรือไม่ แต่บางคนกลับไม่กล้าทำในบางสิ่งบางอย่างที่ตนต้องการเพียงเพราะกลัวว่ามันจะไม่สำเร็จนั่นเอง<br /><br />3.เสียใจที่ปล่อยให้โลกมากำหนดตัวตนของคุณ<br />ทุกคนอยากให้โลกเข้าใจ และรับได้ในความเป็นตัวคุณ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สำเร็จในสิ่งนี้ เพราะเอาเข้าจริงกลับยอมให้คนอื่นๆ สังคม คนรอบข้างมากำหนดค่าความเป็นตัวคุณ พยายามทำให้คนอื่นพอใจ ยกเว้นความรู้สึกตนเอง<br /><br />4.เสียใจที่มักพูดว่า “รอไว้พรุ่งนี้ค่อยทำ”<br />ข้ออ้าง การขี้เกียจ การผัดวันประกันพรุ่ง คือสิ่งที่ง่ายที่คนเรามักทำ และคุณมักหาเหตุผลได้เสมอ แต่สิ่งที่คุณคิดว่าคุณค่อยทำวันพรุ่งนี้ มักจะกลายเป็นสิ่งที่คุณจะเสียใจทีหลังที่ไม่ได้ทำเมื่อ 50 ปีก่อนทุกที<br /><br />5.เสียใจที่ไม่กล้าเสี่ยงในชีวิต<br />ไม่ว่าจะเป็นความกลัวของคุณเอง อาทิ กลัวที่ไม่กล้าสมัครงานที่อยากทำเพราะกลัวไม่เก่งพอ ไม่กล้าชวนสาวที่ชอบออกเดทเพราะเธอสวยเกินไป ไม่กล้าเริ่มธุรกิจที่ชอบเพราะกลัวไม่สำเร็จ สิ่งเหล่านี้คุณจะเสียดายทีหลัง เชื่อสิ<br /><br />6.เสียใจที่วันนั้นหยุดสู้ต่อ<br />แม้ว่าคุณจะกล้าเสี่ยงทำสิ่งต่างๆ ในข้อที่แล้ว แต่ความล้มเหลวเกิดขึ้นได้แน่ๆ และมันจะกลายเป็นความเสียใจครั้งใหญ่ที่วันนั้นคุณหยุดเดิน หยุดสู้ในสิ่งที่คุณเริ่มมันมา<br /><br />7.เสียใจที่ไม่ได้บอกรักคนอื่นๆ มากกว่านี้<br />ทุกคนรู้สึกรักคนรอบข้าง คนใกล้ชิด คนในครอบครัว คนรัก แต่มีไม่มากที่กล้าที่จะบอกความรู้สึกนั้นกับคนเหล่านั้นของพวกเขา เพราะฉะนั้น อย่าให้มันสายเกินไปนะ บอกรักพวกเขาซะ<br /><br />8.เสียใจที่ไม่ได้มีความสุขกับสิ่งที่มีมากกว่านี้<br />คนเราหลายคนมักไม่เคยพอ ไม่เคยสุขกับเงินที่มี อำนาจที่มี ทางเลือกที่มี แต่อยากมีมากขึ้นไปอีก และไม่เคยมีความสุขกับสิ่งที่มีเสียที ลองก้าวออกมาและมองชีวิตคุณดู แล้วคุณอาจจะรู้แล้วก็ได้ว่าสิ่งที่คุณมีมันพอที่จะทำให้คุณมีความสุขแล้ว<br /><br />9.เสียใจที่ไม่ได้ดูแลร่างกายตัวเองให้ดีกว่านี้<br />ทางเลือกอยู่ในมือคุณ จะทำให้ร่างกายแข็งแรงเพื่ออยู่กับคนที่คุณรักไปนานๆ และมีพลังงานในการทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้ดีขึ้น หรือจะใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงโดยไม่รักร่างกายที่คุณมี หากคุณเลือกข้อแรก บางทีอาจเริ่มต้นที่การออกกำลังกาย หยุดทานอาหารขยะ งดสูบบุหรี่จัดๆ และดื่มเหล้ามากๆ นั่นเอง<br /><br />10.เสียใจที่ฟังคนอื่นน้อยไป<br />“การฟัง” คือคุณสมบัติที่ดี มันคือการเปิดรับความคิด ความเห็น เรื่องราวดีๆ ที่คุณจะนำมาปรับใช้ได้ หรือทำให้ความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ดีขึ้น แต่หลายๆ คนติดกับดักกับความคิดที่ว่าเราต้องถูกเสมอ และปฏิเสธที่จะฟัง<br /><br />11.เสียใจที่ไม่ปล่อยวาง และเก็บความโกรธแค้นมานานเกินไป<br />แน่นอนว่าเวลาคนทำให้เราเจ็บ มันท่อแท้ โดยเฉพาะถ้าคนนั้นมีความหมายมากๆ กับคุณ แต่การถือโทษโกรธแค้นไม่เคยทำให้ใครมีความสุขในชีวิตได้เลย<br /><br />12.เสียใจที่ท่องเที่ยวน้อยไป<br />คนชอบคิดว่าการเที่ยวต้องใช้เงินเยอะ ต้องไปต่างประเทศ ทั้งๆ ที่การท่องเที่ยวหมายถึงไปที่ที่คุณไม่เคยไป และนั่นรวมถึงจังหวัด หรือเมืองในประเทศที่คุณสามารถขับรถไปได้ แค่นั้นก็ทำให้คุณเห็นโลกมากขึ้นแล้ว<br /><br />13.เสียใจที่เครียดกับชีวิตมากเกินไป ไม่ค่อยหัวเราะเลยในชีวิต<br />หลายๆ คนเครียดกับชีวิตมากเกินไป ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องผิด แต่คุณไม่ควรทุ่มเวลาทั้งหมดไปกับการครุ่นคิดสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะความล้มเหลวที่เกิดขึ้น หรือยังไม่เกิดขึ้น หาความสุขให้ชีวิตบ้าง หัวเราะวันละนิด บางทีมันอาจจะช่วยให้คุณคิดอะไรออก หลังจากที่มีความสุขก็เป็นได้<br /><br />14.เสียใจที่ทำงานมากเกินไป (ควรทำแค่ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์พอ)<br />คนเราใช้เวลาไปกับการทำงานมาก เพราะต้องการหาเงินมาให้คนที่เรารักสบาย แต่นั่นบางทีอาจจะหมายถึงการสูญเสียคนเหล่านั้นไปก็เป็นได้ เพราะสิ่งที่คุณไม่เคยให้เขาได้คือเวลาของคุณเอง เพราะฉะนั้นจำไว้ว่า งานของคุณยังคงอยู่แม้คุณตายไป แต่คนรอบข้างของคุณไม่ได้อยู่กับคุณไปตลอด<br /><br />15.เสียใจที่ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนเท่าที่ควร<br />เลิกคิดได้แล้วว่า ถ้าเพื่อนคุณไม่โทรมาเขาคงไม่คิดถึงคุณ หากคุณคิดถึงเขา ความเป็นไปได้ก็คืออีกฝั่งก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นลองโทรหา เขียนอีเมล์ เขียนจดหมาย แล้วคุณจะดีใจถ้าคุณได้ทำมัน<br /><br />16.เสียใจที่ใส่ใจสิ่งรอบข้าง โลกรอบตัวน้อยเกินไป<br />ดูจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนรุ่นนี้เอามากๆ ที่สายตาจดจ่ออยู่กับหน้าจอมือถือ กับคนในนั้นที่อยู่ห่างออกไป มากกว่าที่จะอิ่มเอมกับสิ่งรอบตัว ความงามของโลกตรงหน้าคุณ<br /><br />17.เสียใจที่มั่นใจในตัวเองน้อยไป<br />หนึ่งในความผิดยิ่งใหญ่ในชีวิตของหลายๆ คนคือการไม่เชื่อในความสามารถของตัวเองให้มากพอ และเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ เพราะฉะนั้น คุณเท่านั้นที่ควรรู้คุณค่าของคุณได้ดีที่สุด<br /><br />18.เสียใจที่ไม่เชื่อความรู้สึกตัวเอง<br />เสียงที่อยู่ในหัวคุณ ที่บอกคุณในเรื่องต่างๆ มันอยู่ตรงนั้นเพราะเหตุผลบางอย่าง ซึ่งเหตุผลนั่นคือมันคือความรู้สึก ความต้องการของคุณยังไงล่ะ เพราะฉะนั้น บางครั้งฟังมันบ้างก็ได้ มันคือเสียงของหัวใจคุณนะ<br /><br />19.เสียใจที่เลือกคบคนไม่ดี<br />ความงามของชีวิตคือเราสามารถเลือกได้ว่าจะอยู๋ใกล้ๆ คนแบบไหน บางทีการอยู่ใกล้คนที่สร้างพลังงานด้านบวกให้คุณได้ มันก็ดีกว่าคนที่สร้างแต่เรื่องลบๆ พลังงานด้านลบให้คุณใช่มั้ยล่ะ<br /><br />20.เสียใจที่ไม่ได้ลงมือทำ ได้แต่พูด<br />การพูดง่ายกว่าการลงมือทำ เราสามารถฝันได้ แต่อย่าให้มันเป็นเพียงความฝัน ลงมือทำซะและทำให้มันเป็นความจริง<br /><br /><a href=\"https://www.minds.com/search?f=top&t=all&q=ความลับของคนดีcrชัยสงค์\" title=\"#ความลับของคนดีcrชัยสงค์\" class=\"u-url hashtag\" target=\"_blank\">#ความลับของคนดีcrชัยสงค์</a><br /><br />โคชต๋อง อินเตอร์, <a class=\"u-url mention\" href=\"https://www.minds.com/ThinkBig\" target=\"_blank\">@ThinkBig</a> Michelle MKM <a class=\"u-url mention\" href=\"https://www.minds.com/MaleeblueNews09\" target=\"_blank\">@MaleeblueNews09</a>",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/followers"
],
"tag": [
{
"type": "Mention",
"href": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/813514493739933701",
"name": "@ThinkBig"
},
{
"type": "Mention",
"href": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575400920209170444",
"name": "@MaleeblueNews09"
}
],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/627696332013838336",
"published": "2016-09-28T02:41:05+00:00",
"source": {
"content": "วันหนึ่งคนเราต้องตาย…นี่อาจจะเป็นหนึ่งในประโยคที่ดูมีพลังที่สุดเวลามีคนอื่นพูดกับเรา..,\n“รู้สึกชนะที่ใช้ชีวิตของคุณได้คุ้มค่าแล้ว” หรือ “เสียใจที่ไม่ได้ทำในหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่าง”\n\nวันนี้เราเอา \"20 ความเสียใจ” \nจากคนใกล้ตายที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณมาฝากกัน...\n\n1.เสียใจที่ไปเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่นๆ\nทุกคนต้องเคยผ่านจุดนี้ และคนที่ยังทำอยู่ มันไม่มีประโยชน์เลย และมีแต่จะบั่นทอนความรู้สึกเติมเต็มในชีวิตคุณ แทนที่จะเปรียบเทียบกับใครก็ตาม ให้คิดว่าเรามาไกลแค่ไหนแล้ว เราทำอะไรไปแล้วที่ส่งผลต่อเป้าหมายของเราบ้าง จะดีกว่า\n\n2.เสียใจที่ไม่ทำสิ่งที่ต้องการ\nสิ่งหนึ่งที่คุณต้องรู้คือไม่ว่าอะไรก็ตาม มันไม่มี “วิธีที่ถูกต้อง” เสมอหรอ บางทีเราต้องทำมัน เริ่มมัน แล้วคุณจะรู้เองว่ามันจะได้ผลหรือไม่ แต่บางคนกลับไม่กล้าทำในบางสิ่งบางอย่างที่ตนต้องการเพียงเพราะกลัวว่ามันจะไม่สำเร็จนั่นเอง\n\n3.เสียใจที่ปล่อยให้โลกมากำหนดตัวตนของคุณ\nทุกคนอยากให้โลกเข้าใจ และรับได้ในความเป็นตัวคุณ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สำเร็จในสิ่งนี้ เพราะเอาเข้าจริงกลับยอมให้คนอื่นๆ สังคม คนรอบข้างมากำหนดค่าความเป็นตัวคุณ พยายามทำให้คนอื่นพอใจ ยกเว้นความรู้สึกตนเอง\n\n4.เสียใจที่มักพูดว่า “รอไว้พรุ่งนี้ค่อยทำ”\nข้ออ้าง การขี้เกียจ การผัดวันประกันพรุ่ง คือสิ่งที่ง่ายที่คนเรามักทำ และคุณมักหาเหตุผลได้เสมอ แต่สิ่งที่คุณคิดว่าคุณค่อยทำวันพรุ่งนี้ มักจะกลายเป็นสิ่งที่คุณจะเสียใจทีหลังที่ไม่ได้ทำเมื่อ 50 ปีก่อนทุกที\n\n5.เสียใจที่ไม่กล้าเสี่ยงในชีวิต\nไม่ว่าจะเป็นความกลัวของคุณเอง อาทิ กลัวที่ไม่กล้าสมัครงานที่อยากทำเพราะกลัวไม่เก่งพอ ไม่กล้าชวนสาวที่ชอบออกเดทเพราะเธอสวยเกินไป ไม่กล้าเริ่มธุรกิจที่ชอบเพราะกลัวไม่สำเร็จ สิ่งเหล่านี้คุณจะเสียดายทีหลัง เชื่อสิ\n\n6.เสียใจที่วันนั้นหยุดสู้ต่อ\nแม้ว่าคุณจะกล้าเสี่ยงทำสิ่งต่างๆ ในข้อที่แล้ว แต่ความล้มเหลวเกิดขึ้นได้แน่ๆ และมันจะกลายเป็นความเสียใจครั้งใหญ่ที่วันนั้นคุณหยุดเดิน หยุดสู้ในสิ่งที่คุณเริ่มมันมา\n\n7.เสียใจที่ไม่ได้บอกรักคนอื่นๆ มากกว่านี้\nทุกคนรู้สึกรักคนรอบข้าง คนใกล้ชิด คนในครอบครัว คนรัก แต่มีไม่มากที่กล้าที่จะบอกความรู้สึกนั้นกับคนเหล่านั้นของพวกเขา เพราะฉะนั้น อย่าให้มันสายเกินไปนะ บอกรักพวกเขาซะ\n\n8.เสียใจที่ไม่ได้มีความสุขกับสิ่งที่มีมากกว่านี้\nคนเราหลายคนมักไม่เคยพอ ไม่เคยสุขกับเงินที่มี อำนาจที่มี ทางเลือกที่มี แต่อยากมีมากขึ้นไปอีก และไม่เคยมีความสุขกับสิ่งที่มีเสียที ลองก้าวออกมาและมองชีวิตคุณดู แล้วคุณอาจจะรู้แล้วก็ได้ว่าสิ่งที่คุณมีมันพอที่จะทำให้คุณมีความสุขแล้ว\n\n9.เสียใจที่ไม่ได้ดูแลร่างกายตัวเองให้ดีกว่านี้\nทางเลือกอยู่ในมือคุณ จะทำให้ร่างกายแข็งแรงเพื่ออยู่กับคนที่คุณรักไปนานๆ และมีพลังงานในการทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้ดีขึ้น หรือจะใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงโดยไม่รักร่างกายที่คุณมี หากคุณเลือกข้อแรก บางทีอาจเริ่มต้นที่การออกกำลังกาย หยุดทานอาหารขยะ งดสูบบุหรี่จัดๆ และดื่มเหล้ามากๆ นั่นเอง\n\n10.เสียใจที่ฟังคนอื่นน้อยไป\n“การฟัง” คือคุณสมบัติที่ดี มันคือการเปิดรับความคิด ความเห็น เรื่องราวดีๆ ที่คุณจะนำมาปรับใช้ได้ หรือทำให้ความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ดีขึ้น แต่หลายๆ คนติดกับดักกับความคิดที่ว่าเราต้องถูกเสมอ และปฏิเสธที่จะฟัง\n\n11.เสียใจที่ไม่ปล่อยวาง และเก็บความโกรธแค้นมานานเกินไป\nแน่นอนว่าเวลาคนทำให้เราเจ็บ มันท่อแท้ โดยเฉพาะถ้าคนนั้นมีความหมายมากๆ กับคุณ แต่การถือโทษโกรธแค้นไม่เคยทำให้ใครมีความสุขในชีวิตได้เลย\n\n12.เสียใจที่ท่องเที่ยวน้อยไป\nคนชอบคิดว่าการเที่ยวต้องใช้เงินเยอะ ต้องไปต่างประเทศ ทั้งๆ ที่การท่องเที่ยวหมายถึงไปที่ที่คุณไม่เคยไป และนั่นรวมถึงจังหวัด หรือเมืองในประเทศที่คุณสามารถขับรถไปได้ แค่นั้นก็ทำให้คุณเห็นโลกมากขึ้นแล้ว\n\n13.เสียใจที่เครียดกับชีวิตมากเกินไป ไม่ค่อยหัวเราะเลยในชีวิต\nหลายๆ คนเครียดกับชีวิตมากเกินไป ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องผิด แต่คุณไม่ควรทุ่มเวลาทั้งหมดไปกับการครุ่นคิดสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะความล้มเหลวที่เกิดขึ้น หรือยังไม่เกิดขึ้น หาความสุขให้ชีวิตบ้าง หัวเราะวันละนิด บางทีมันอาจจะช่วยให้คุณคิดอะไรออก หลังจากที่มีความสุขก็เป็นได้\n\n14.เสียใจที่ทำงานมากเกินไป (ควรทำแค่ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์พอ)\nคนเราใช้เวลาไปกับการทำงานมาก เพราะต้องการหาเงินมาให้คนที่เรารักสบาย แต่นั่นบางทีอาจจะหมายถึงการสูญเสียคนเหล่านั้นไปก็เป็นได้ เพราะสิ่งที่คุณไม่เคยให้เขาได้คือเวลาของคุณเอง เพราะฉะนั้นจำไว้ว่า งานของคุณยังคงอยู่แม้คุณตายไป แต่คนรอบข้างของคุณไม่ได้อยู่กับคุณไปตลอด\n\n15.เสียใจที่ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนเท่าที่ควร\nเลิกคิดได้แล้วว่า ถ้าเพื่อนคุณไม่โทรมาเขาคงไม่คิดถึงคุณ หากคุณคิดถึงเขา ความเป็นไปได้ก็คืออีกฝั่งก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นลองโทรหา เขียนอีเมล์ เขียนจดหมาย แล้วคุณจะดีใจถ้าคุณได้ทำมัน\n\n16.เสียใจที่ใส่ใจสิ่งรอบข้าง โลกรอบตัวน้อยเกินไป\nดูจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนรุ่นนี้เอามากๆ ที่สายตาจดจ่ออยู่กับหน้าจอมือถือ กับคนในนั้นที่อยู่ห่างออกไป มากกว่าที่จะอิ่มเอมกับสิ่งรอบตัว ความงามของโลกตรงหน้าคุณ\n\n17.เสียใจที่มั่นใจในตัวเองน้อยไป\nหนึ่งในความผิดยิ่งใหญ่ในชีวิตของหลายๆ คนคือการไม่เชื่อในความสามารถของตัวเองให้มากพอ และเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ เพราะฉะนั้น คุณเท่านั้นที่ควรรู้คุณค่าของคุณได้ดีที่สุด\n\n18.เสียใจที่ไม่เชื่อความรู้สึกตัวเอง\nเสียงที่อยู่ในหัวคุณ ที่บอกคุณในเรื่องต่างๆ มันอยู่ตรงนั้นเพราะเหตุผลบางอย่าง ซึ่งเหตุผลนั่นคือมันคือความรู้สึก ความต้องการของคุณยังไงล่ะ เพราะฉะนั้น บางครั้งฟังมันบ้างก็ได้ มันคือเสียงของหัวใจคุณนะ\n\n19.เสียใจที่เลือกคบคนไม่ดี\nความงามของชีวิตคือเราสามารถเลือกได้ว่าจะอยู๋ใกล้ๆ คนแบบไหน บางทีการอยู่ใกล้คนที่สร้างพลังงานด้านบวกให้คุณได้ มันก็ดีกว่าคนที่สร้างแต่เรื่องลบๆ พลังงานด้านลบให้คุณใช่มั้ยล่ะ\n\n20.เสียใจที่ไม่ได้ลงมือทำ ได้แต่พูด\nการพูดง่ายกว่าการลงมือทำ เราสามารถฝันได้ แต่อย่าให้มันเป็นเพียงความฝัน ลงมือทำซะและทำให้มันเป็นความจริง\n\n#ความลับของคนดีcrชัยสงค์\n\nโคชต๋อง อินเตอร์, @ThinkBig Michelle MKM @MaleeblueNews09",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627696332013838336/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627685851198922752",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"content": "ข้อมูลข่าวสารสาระดีดีความรู้ต่างๆ จากเพทของดิฉันพี่น้องประชาชน สารมารถแชร์ใด้ทุกกระทู้นะคะ ดิฉันมาเพื่อเผยแผร่สาธารณะประโยชน์<br />ให้กับสังคมส่วนรวม เพื่อสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย ด้วยสันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน<br /><br />สนับสนุนการเผยแผร่เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย ด้วยสันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน<br /><br />Michelle Maleeblue <a class=\"u-url mention\" href=\"https://www.minds.com/MaleeblueNews\" target=\"_blank\">@MaleeblueNews</a> <a class=\"u-url mention\" href=\"https://www.minds.com/Line\" target=\"_blank\">@Line</a> id - MaleeblueNews09",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/followers"
],
"tag": [
{
"type": "Mention",
"href": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617042914706468881",
"name": "@MaleeblueNews"
},
{
"type": "Mention",
"href": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/457971893731856384",
"name": "@Line"
}
],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/627685851198922752",
"published": "2016-09-28T01:59:26+00:00",
"source": {
"content": "ข้อมูลข่าวสารสาระดีดีความรู้ต่างๆ จากเพทของดิฉันพี่น้องประชาชน สารมารถแชร์ใด้ทุกกระทู้นะคะ ดิฉันมาเพื่อเผยแผร่สาธารณะประโยชน์\nให้กับสังคมส่วนรวม เพื่อสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย ด้วยสันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน\n\nสนับสนุนการเผยแผร่เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย ด้วยสันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน\n\nMichelle Maleeblue @MaleeblueNews @Line id - MaleeblueNews09",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627685851198922752/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627521190428155904",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"content": "ทำไม ผมจึงกล่าวว่า \"การก่อตั้งศาล เพื่อปราบปรามการทุจริต\" ที่กำลังทำกันอยู่นี้ และ ออกประกาศ เป็น \"กฎหมาย\" เพื่อบังคับใช้ ตกเป็น \"โมฆะ\"?<br /><br />ต่อไปนี้ คือเหตุผล อันมีที่มาจาก ตัวบทกฎหมายระหว่างประเทศ หรือ International Law ที่ท่านผู้อ่านบทความ ของผม \"พึงต้องรู้\"<br /><br />๑. มีผู้คน หรือ ประชาชนคนไทย ที่มีความสับสน ในเรื่อง “ที่ประเทศไทย เมื่อได้ไปประกาศรับเอา และ เข้าร่วม ลงนามให้สัตยาบัน ในกฎบัตรของ องค์การสหประชาชาติ หรือ The Charter of United Nations ที่ตัวกฎบัตรของ องค์การสหประชาชาติ มีสถานภาพเป็น สนธิสัญญาหลายฝ่าย หรือ Multilateral Treaty”<br /><br />๒. เมื่อประเทศไทย ได้ปฏิบัติการ ได้ ครบถ้วนตามกระบวนการ ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายระหว่างประเทศ แล้ว ประเทศไทย จะมาออก กฎหมายภายในของ ตัวเราเอง ให้มีผลทางกฎหมาย เป็น การยกเลิกเพิกถอน พันธกรณี ของตัวเรา ที่มีอยู่กับ องค์การสหประชาชาติ และ นานาชาติ ในเวลาภายหลังจากนั้น ได้หรือไม่? นี่คือ คำถาม <br /><br />๓. ต้องขอตอบสั้นๆ ตรงนี้ว่า “ทำไม่ได้” ไม่มีใครในโลกใบนี้ เขายอมรับวิธีคิด และวิถีการกระทำของ ประเทศไทย แน่นอน สิ่งเหล่านี้ มีให้เห็นโดยดาษดื่น ปรากฎอยู่ใน ระบบกฎหมายไทย ทั้งระบบ <br /><br />๔. วันนี้ ผม จึงขอเริ่มต้น นำเอา คำวินิจฉัยของ ศาลสถิตย์ยุติธรรมสังคมประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (the European Court of Justice) หรือ ของ EEC ในวันวาน หรือ EU ในวันนี้ ในคดีที่วินิจัย เป็นหลักสำคัญเอาไว้ ในคดีที่ชื่อ “Costa v. E.N.E.L. คดีหมายเลขที่ 6/64 ในระบบอ้างอิงของ ศาลสถิตย์ยุติธรรมสังคมประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (the European Court of Justice)<br /><br />๕. ขอตัดเอาวรรคตอน ที่สำคัญ ที่ ศาลสถิตย์ยุติธรรมสังคมประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (the European Court of Justice) ได้ว่าเอาไว้ ในคำวินิจฉัย โดยย่อของคดีดังกล่าว <br /> มาวางลง แล้ว จะได้อธิบาย โดยเปรียบเทียบต่อไป ดังมีความในภาษาอังกฤษ ดังต่อไปนี้ :<br /><br /> “3 . BY CONTRAST WITH ORDINARY INTERNATIONAL TREATIES, THE EEC TREATY HAS CREATED ITS OWN LEGAL SYSTEM WHICH, ON THE ENTRY INTO FORCE OF THE TREATY, BECAME AN INTEGRAL PART OF THE LEGAL SYSTEMS OF THE MEMBER STATES AND WHICH THEIR COURTS ARE BOUND TO APPLY . <br />BY CREATING A COMMUNITY OF UNLIMITED DURATION, HAVING ITS OWN INSTITUTIONS, ITS OWN PERSONALITY, ITS OWN LEGAL CAPACITY AND CAPACITY OF REPRESENTATION ON THE INTERNATIONAL PLANE AND, MORE PARTICULARLY, REAL POWERS STEMMING FROM A LIMITATION OF SOVEREIGNTY OR A TRANSFER OF POWERS FROM THE STATES TO THE COMMUNITY, THE MEMBER STATES HAVE LIMITED THEIR SOVEREIGN RIGHTS AND HAVE THUS CREATED A BODY OF LAW WHICH BINDS BOTH THEIR NATIONALS AND THEMSELVES . <br />THE INTEGRATION INTO THE LAWS OF EACH MEMBER STATE OF PROVISIONS WHICH DERIVE FROM THE COMMUNITY AND MORE GENERALLY THE TERMS AND THE SPIRIT OF THE TREATY, MAKE IT IMPOSSIBLE FOR THE STATES, AS A COROLLARY, TO ACCORD PRECEDENCE TO A UNILATERAL AND SUBSEQUENT MEASURE OVER A LEGAL SYSTEM ACCEPTED BY THEM ON A BASIS OF RECIPROCITY . SUCH A MEASURE CANNOT THEREFORE BE INCONSISTENT WITH THAT LEGAL SYSTEM . THE LAW STEMMING FROM THE TREATY, AN INDEPENDENT SOURCE OF LAW, COULD NOT BECAUSE OF ITS SPECIAL AND ORIGINAL NATURE, BE OVERRIDDEN BY DOMESTIC LEGAL PROVISIONS, HOWEVER FRAMED, WITHOUT BEING DEPRIVED OF ITS CHARACTER AS COMMUNITY LAW AND WITHOUT THE LEGAL BASIS OF THE COMMUNITY ITSELF BEING CALLED INTO QUESTION . <br />THE TRANSFER BY THE STATES FROM THEIR DOMESTIC LEGAL SYSTEM TO THE COMMUNITY LEGAL SYSTEM OF THE RIGHTS AND OBLIGATIONS ARISING UNDER THE TREATY CARRIES WITH IT A PERMANENT LIMITATION OF THEIR SOVEREIGN RIGHTS .”<br /><br />๖. ถอดความออกมาเป็นภาษาไทย ได้ความดังต่อไปนี้:<br /><br />“3. โดยวิธีการเปรียบเทียบ กับ สนธิสัญญาในระหว่างประเทศแบบธรรมดาๆ (ทั่วไป), สนธิสัญญา อีอีซี ได้ก่อตั้ง ระบบกฎหมายของ ตนเอง, ณ ขณะเวลา ที่สนธิสัญญามีผลบังคับ ระบบกฎหมายเช่นนี้ ได้ฝังตัว และ ได้กลายเป็น ส่วนสำคัญ ในระบบกฎหมายของ รัฐคู่ภาคีของ สนธิสัญญาฉบับ ที่กล่าวถึงนี้, ซึ่งศาลยุติธรรมต่างๆของ รัฐคู่ภาคี ต้องถูกผูกมัด ให้นำความ นั้นๆ มาบังคับใช้ เป็น กฎหมาย ในระบบกฎหมายภายในของ ตน.<br /><br /> ด้วยการก่อตั้งประชาคมขึ้น (ในโลก) อย่างไม่มีขีดจำกัด ในเรื่องระยะเวลา, มีองค์กร ที่เป็น สถาบันของตนเองขึ้น, มีสถานภาพทางบุคคลของ ตนเอง, มีความสามารถตามกฎหมาย และ มีความสามารถ ที่จะแสดงออกบนระนาบแห่งนานาชาติ และ, โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีอำนาจที่แท้จริง ที่นำมา จากการจำกัดอำนาจอธิปัตย์ลง หรือ การถ่ายโอนอำนาจ เช่นที่ว่านั้น จากรัฐคู่ภาคีของ สนธิสัญญา มาสู่ประชาคม ที่ได้รับการจัดตั้งขึ้น, นั่นก็คือ รัฐคู่ภาคี ได้จำกัด การมี และการใช้ ในอำนาจอธิปัตย์ของ ตนเองลง และได้ก่อตั้งระบบกฎหมาย ขึ้นใหม่ ซึ่งผูกพันประชากรในรัฐ และ ตัวรัฐคู่ภาคี ฝ่ายนั้นๆเอง.<br /><br /> การนำเอาตัวบทกฎหมายของ ประชาคม (ที่ก่อตั้งขึ้น) เข้าควบรวม กับ กฎหมายของรัฐคู่ภาคี แต่ละฝ่าย และ ที่เป็นมากกว่า หลักเกณฑ์ โดยทั่วๆไป ตัวบทบัญญัติ และ เจตนารมณ์ของ ตัวสนธิสัญญา, ทำให้ เป็นเรื่อง ที่เป็นไปไม่ได้ที่รัฐคู่ภาคี, ในเชิงเปรียบเทียบ, การกระทำฝ่ายเดียวโดยรัฐคู่ภาคี และ มาตรการทางกฎหมาย ในเวลาต่อมาโดยรัฐคู่ภาคี ที่จะมีสถานภาพเหนือกว่า ระบบกฎหมาย ที่รัฐคู่ภาคี ได้ยินยอมรับเอาไว้แล้ว ตามหลักเกณฑ์ของ กฎหมาย ในเรื่อง การต้อง ปฏิบัติ ต่างตอบแทนกัน ฉะนั้น มาตรการดังกล่าว จึงย่อมไม่มีความสอดคล้อง ต้องกัน กับ ระบบกฎหมาย ที่ได้ก่อตั้งขึ้น. ตัวบทกฎหมาย ที่มีที่มาจากตัวสนธิสัญญา, เป็นแหล่งที่มา ที่เป็น อิสระของ ตัวบทกฎหมาย เพราะเหตุ อันเป็นพิเศษ และ มีจุดกำเหนิด ตามธรรมชาติ อันเป็นพิเศษ ไม่อาจถูกลบล้างด้วย ตัวบทกฎหมายภายในของ รัฐคู่ภาคีที่ร่างขึ้นมา, ไม่ว่ากฎหมายภายในนั้น จะถูกร่างขึ้นมา เป็นพิเศษอย่างไร? ก็ตาม, ไม่อาจที่จะพรากเอาไป ซึ่งคุณลักษณะ ที่เป็นกฎหมายของ ประชาคม (ที่จัดตั้งขึ้น), โดยปราศจากพื้นฐาน ทางกฎหมายของ ประชาคม ด้วยตัวของ ประชาคมเอง ที่เป็นต้นเหตุของ ปัญหาที่ได้ก่อให้เกิดขึ้น . <br /> การถ่ายโอนในอำนาจ การมี และ การใช้อำนาจจาก ระบบกฎหมายภายในของ รัฐคู่ภาคี มาสู่ระบบกฎหมายของ ประชาคม (ที่ก่อตั้งขึ้น) ซึ่งสิทธิ และ หน้าที่ ที่เกิดจากสนธิสัญญา ที่รัฐคู่ภาคี ได้ยินยอมเข้าไป เป็น ฝ่าย และ เป็น คู่ภาคีในสนธิสัญญา ทำให้เกิดการจำกัดอำนาจ ในการมี และ การใช้ อำนาจอธิปัตย์ของ รัฐคู่ภาคี ในส่วนนั้น เป็นการถาวร” <br /><br />นี่ จึงเป็นที่มาของ คำกล่าวของ ผมที่ว่า “ทำไม ผมจึงกล่าวว่า \"การก่อตั้งศาล เพื่อปราบปรามการทุจริต\" ที่กำลังทำกันอยู่นี้ และ ออกประกาศ เป็น \"กฎหมาย\" เพื่อบังคับใช้ ตกเป็น \"โมฆะ\" โดยสิ้นเชิง............. (มีต่อ).<br /><br />Thanaboon Chiranuvat, <a class=\"u-url mention\" href=\"https://www.minds.com/MaleeblueNews09\" target=\"_blank\">@MaleeblueNews09</a>",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/followers"
],
"tag": [
{
"type": "Mention",
"href": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575400920209170444",
"name": "@MaleeblueNews09"
}
],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/627521190428155904",
"published": "2016-09-27T15:05:08+00:00",
"source": {
"content": "ทำไม ผมจึงกล่าวว่า \"การก่อตั้งศาล เพื่อปราบปรามการทุจริต\" ที่กำลังทำกันอยู่นี้ และ ออกประกาศ เป็น \"กฎหมาย\" เพื่อบังคับใช้ ตกเป็น \"โมฆะ\"?\n\nต่อไปนี้ คือเหตุผล อันมีที่มาจาก ตัวบทกฎหมายระหว่างประเทศ หรือ International Law ที่ท่านผู้อ่านบทความ ของผม \"พึงต้องรู้\"\n\n๑. มีผู้คน หรือ ประชาชนคนไทย ที่มีความสับสน ในเรื่อง “ที่ประเทศไทย เมื่อได้ไปประกาศรับเอา และ เข้าร่วม ลงนามให้สัตยาบัน ในกฎบัตรของ องค์การสหประชาชาติ หรือ The Charter of United Nations ที่ตัวกฎบัตรของ องค์การสหประชาชาติ มีสถานภาพเป็น สนธิสัญญาหลายฝ่าย หรือ Multilateral Treaty”\n\n๒. เมื่อประเทศไทย ได้ปฏิบัติการ ได้ ครบถ้วนตามกระบวนการ ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายระหว่างประเทศ แล้ว ประเทศไทย จะมาออก กฎหมายภายในของ ตัวเราเอง ให้มีผลทางกฎหมาย เป็น การยกเลิกเพิกถอน พันธกรณี ของตัวเรา ที่มีอยู่กับ องค์การสหประชาชาติ และ นานาชาติ ในเวลาภายหลังจากนั้น ได้หรือไม่? นี่คือ คำถาม \n\n๓. ต้องขอตอบสั้นๆ ตรงนี้ว่า “ทำไม่ได้” ไม่มีใครในโลกใบนี้ เขายอมรับวิธีคิด และวิถีการกระทำของ ประเทศไทย แน่นอน สิ่งเหล่านี้ มีให้เห็นโดยดาษดื่น ปรากฎอยู่ใน ระบบกฎหมายไทย ทั้งระบบ \n\n๔. วันนี้ ผม จึงขอเริ่มต้น นำเอา คำวินิจฉัยของ ศาลสถิตย์ยุติธรรมสังคมประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (the European Court of Justice) หรือ ของ EEC ในวันวาน หรือ EU ในวันนี้ ในคดีที่วินิจัย เป็นหลักสำคัญเอาไว้ ในคดีที่ชื่อ “Costa v. E.N.E.L. คดีหมายเลขที่ 6/64 ในระบบอ้างอิงของ ศาลสถิตย์ยุติธรรมสังคมประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (the European Court of Justice)\n\n๕. ขอตัดเอาวรรคตอน ที่สำคัญ ที่ ศาลสถิตย์ยุติธรรมสังคมประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (the European Court of Justice) ได้ว่าเอาไว้ ในคำวินิจฉัย โดยย่อของคดีดังกล่าว \n มาวางลง แล้ว จะได้อธิบาย โดยเปรียบเทียบต่อไป ดังมีความในภาษาอังกฤษ ดังต่อไปนี้ :\n\n “3 . BY CONTRAST WITH ORDINARY INTERNATIONAL TREATIES, THE EEC TREATY HAS CREATED ITS OWN LEGAL SYSTEM WHICH, ON THE ENTRY INTO FORCE OF THE TREATY, BECAME AN INTEGRAL PART OF THE LEGAL SYSTEMS OF THE MEMBER STATES AND WHICH THEIR COURTS ARE BOUND TO APPLY . \nBY CREATING A COMMUNITY OF UNLIMITED DURATION, HAVING ITS OWN INSTITUTIONS, ITS OWN PERSONALITY, ITS OWN LEGAL CAPACITY AND CAPACITY OF REPRESENTATION ON THE INTERNATIONAL PLANE AND, MORE PARTICULARLY, REAL POWERS STEMMING FROM A LIMITATION OF SOVEREIGNTY OR A TRANSFER OF POWERS FROM THE STATES TO THE COMMUNITY, THE MEMBER STATES HAVE LIMITED THEIR SOVEREIGN RIGHTS AND HAVE THUS CREATED A BODY OF LAW WHICH BINDS BOTH THEIR NATIONALS AND THEMSELVES . \nTHE INTEGRATION INTO THE LAWS OF EACH MEMBER STATE OF PROVISIONS WHICH DERIVE FROM THE COMMUNITY AND MORE GENERALLY THE TERMS AND THE SPIRIT OF THE TREATY, MAKE IT IMPOSSIBLE FOR THE STATES, AS A COROLLARY, TO ACCORD PRECEDENCE TO A UNILATERAL AND SUBSEQUENT MEASURE OVER A LEGAL SYSTEM ACCEPTED BY THEM ON A BASIS OF RECIPROCITY . SUCH A MEASURE CANNOT THEREFORE BE INCONSISTENT WITH THAT LEGAL SYSTEM . THE LAW STEMMING FROM THE TREATY, AN INDEPENDENT SOURCE OF LAW, COULD NOT BECAUSE OF ITS SPECIAL AND ORIGINAL NATURE, BE OVERRIDDEN BY DOMESTIC LEGAL PROVISIONS, HOWEVER FRAMED, WITHOUT BEING DEPRIVED OF ITS CHARACTER AS COMMUNITY LAW AND WITHOUT THE LEGAL BASIS OF THE COMMUNITY ITSELF BEING CALLED INTO QUESTION . \nTHE TRANSFER BY THE STATES FROM THEIR DOMESTIC LEGAL SYSTEM TO THE COMMUNITY LEGAL SYSTEM OF THE RIGHTS AND OBLIGATIONS ARISING UNDER THE TREATY CARRIES WITH IT A PERMANENT LIMITATION OF THEIR SOVEREIGN RIGHTS .”\n\n๖. ถอดความออกมาเป็นภาษาไทย ได้ความดังต่อไปนี้:\n\n“3. โดยวิธีการเปรียบเทียบ กับ สนธิสัญญาในระหว่างประเทศแบบธรรมดาๆ (ทั่วไป), สนธิสัญญา อีอีซี ได้ก่อตั้ง ระบบกฎหมายของ ตนเอง, ณ ขณะเวลา ที่สนธิสัญญามีผลบังคับ ระบบกฎหมายเช่นนี้ ได้ฝังตัว และ ได้กลายเป็น ส่วนสำคัญ ในระบบกฎหมายของ รัฐคู่ภาคีของ สนธิสัญญาฉบับ ที่กล่าวถึงนี้, ซึ่งศาลยุติธรรมต่างๆของ รัฐคู่ภาคี ต้องถูกผูกมัด ให้นำความ นั้นๆ มาบังคับใช้ เป็น กฎหมาย ในระบบกฎหมายภายในของ ตน.\n\n ด้วยการก่อตั้งประชาคมขึ้น (ในโลก) อย่างไม่มีขีดจำกัด ในเรื่องระยะเวลา, มีองค์กร ที่เป็น สถาบันของตนเองขึ้น, มีสถานภาพทางบุคคลของ ตนเอง, มีความสามารถตามกฎหมาย และ มีความสามารถ ที่จะแสดงออกบนระนาบแห่งนานาชาติ และ, โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีอำนาจที่แท้จริง ที่นำมา จากการจำกัดอำนาจอธิปัตย์ลง หรือ การถ่ายโอนอำนาจ เช่นที่ว่านั้น จากรัฐคู่ภาคีของ สนธิสัญญา มาสู่ประชาคม ที่ได้รับการจัดตั้งขึ้น, นั่นก็คือ รัฐคู่ภาคี ได้จำกัด การมี และการใช้ ในอำนาจอธิปัตย์ของ ตนเองลง และได้ก่อตั้งระบบกฎหมาย ขึ้นใหม่ ซึ่งผูกพันประชากรในรัฐ และ ตัวรัฐคู่ภาคี ฝ่ายนั้นๆเอง.\n\n การนำเอาตัวบทกฎหมายของ ประชาคม (ที่ก่อตั้งขึ้น) เข้าควบรวม กับ กฎหมายของรัฐคู่ภาคี แต่ละฝ่าย และ ที่เป็นมากกว่า หลักเกณฑ์ โดยทั่วๆไป ตัวบทบัญญัติ และ เจตนารมณ์ของ ตัวสนธิสัญญา, ทำให้ เป็นเรื่อง ที่เป็นไปไม่ได้ที่รัฐคู่ภาคี, ในเชิงเปรียบเทียบ, การกระทำฝ่ายเดียวโดยรัฐคู่ภาคี และ มาตรการทางกฎหมาย ในเวลาต่อมาโดยรัฐคู่ภาคี ที่จะมีสถานภาพเหนือกว่า ระบบกฎหมาย ที่รัฐคู่ภาคี ได้ยินยอมรับเอาไว้แล้ว ตามหลักเกณฑ์ของ กฎหมาย ในเรื่อง การต้อง ปฏิบัติ ต่างตอบแทนกัน ฉะนั้น มาตรการดังกล่าว จึงย่อมไม่มีความสอดคล้อง ต้องกัน กับ ระบบกฎหมาย ที่ได้ก่อตั้งขึ้น. ตัวบทกฎหมาย ที่มีที่มาจากตัวสนธิสัญญา, เป็นแหล่งที่มา ที่เป็น อิสระของ ตัวบทกฎหมาย เพราะเหตุ อันเป็นพิเศษ และ มีจุดกำเหนิด ตามธรรมชาติ อันเป็นพิเศษ ไม่อาจถูกลบล้างด้วย ตัวบทกฎหมายภายในของ รัฐคู่ภาคีที่ร่างขึ้นมา, ไม่ว่ากฎหมายภายในนั้น จะถูกร่างขึ้นมา เป็นพิเศษอย่างไร? ก็ตาม, ไม่อาจที่จะพรากเอาไป ซึ่งคุณลักษณะ ที่เป็นกฎหมายของ ประชาคม (ที่จัดตั้งขึ้น), โดยปราศจากพื้นฐาน ทางกฎหมายของ ประชาคม ด้วยตัวของ ประชาคมเอง ที่เป็นต้นเหตุของ ปัญหาที่ได้ก่อให้เกิดขึ้น . \n การถ่ายโอนในอำนาจ การมี และ การใช้อำนาจจาก ระบบกฎหมายภายในของ รัฐคู่ภาคี มาสู่ระบบกฎหมายของ ประชาคม (ที่ก่อตั้งขึ้น) ซึ่งสิทธิ และ หน้าที่ ที่เกิดจากสนธิสัญญา ที่รัฐคู่ภาคี ได้ยินยอมเข้าไป เป็น ฝ่าย และ เป็น คู่ภาคีในสนธิสัญญา ทำให้เกิดการจำกัดอำนาจ ในการมี และ การใช้ อำนาจอธิปัตย์ของ รัฐคู่ภาคี ในส่วนนั้น เป็นการถาวร” \n\nนี่ จึงเป็นที่มาของ คำกล่าวของ ผมที่ว่า “ทำไม ผมจึงกล่าวว่า \"การก่อตั้งศาล เพื่อปราบปรามการทุจริต\" ที่กำลังทำกันอยู่นี้ และ ออกประกาศ เป็น \"กฎหมาย\" เพื่อบังคับใช้ ตกเป็น \"โมฆะ\" โดยสิ้นเชิง............. (มีต่อ).\n\nThanaboon Chiranuvat, @MaleeblueNews09",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627521190428155904/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627491679980494848",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"content": "\"ขอสักแอ็คนะ \"...ต้องใช้ปัญญาประกอบด้วยสติ พัฒนาระบบปกครองของประเทศไทย ให้บรรลุถึงซึ่งระบบประชาธิปไตยสมบูรณ์ และป้องกันชาวไทย ผู้รักชาติแท้จริงมิให้หลงเชื่อการโฆษณาที่จะดึงการปกครองประเทศไทยให้ถอยหลังเข้าคลอง<br /><br /><a class=\"u-url mention\" href=\"https://www.minds.com/MaleeblueNews09\" target=\"_blank\">@MaleeblueNews09</a>",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/627491679980494848",
"published": "2016-09-27T13:07:52+00:00",
"source": {
"content": "\"ขอสักแอ็คนะ \"...ต้องใช้ปัญญาประกอบด้วยสติ พัฒนาระบบปกครองของประเทศไทย ให้บรรลุถึงซึ่งระบบประชาธิปไตยสมบูรณ์ และป้องกันชาวไทย ผู้รักชาติแท้จริงมิให้หลงเชื่อการโฆษณาที่จะดึงการปกครองประเทศไทยให้ถอยหลังเข้าคลอง\n\n@MaleeblueNews09",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627491679980494848/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627461059552227345",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"content": "ยึดทรัพย์ (วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559)โดย จักรภพ เพ็ญแข<br />นี่ถ้าอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ยอมจ่ายค่าปรับ จำนวน 35,000 ล้านตามข้อกล่าวหาในโครงการการจำนำข้าวเข้าจริงๆ ก็หมายความว่าฝ่ายอำนาจเก่าสามารถยึดทรัพย์คนในครอบครัวชินวัตรก้อนใหญ่ๆ ได้อีกก้อนหนึ่ง ถัดจาก 46,000 ล้านบาทที่ยึดตรงมาจาก ดร. ทักษิณ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิวัติเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างได้ผล จนนั่งกันไม่ติดที่ทั้งนายทั้งบ่าว ส่งผลกระเทือนเลื่อนลั่นครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์และทำให้ระบอบเดิมซึ่งเป็นของปลอมต้องเซซวนรวนเรไป<br /><br />ผมนั่งดูพฤติกรรมการเตรียมยึดทรัพย์ รีดทรัพย์ ขู่กรรโชกทรัพย์ หรือเรียกกันอย่างดัดจริตว่าค่าปรับ แล้วก็เกิดความคิดขึ้น 2 อย่าง<br /><br />1. คำว่า ปรับ ซึ่งพูดกันตรงๆ คือยึดทรัพย์ในเมืองไทยขณะนี้ กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นกลางเมือง นั่นคือ ใครที่เข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองแบบมีเงินทองทรัพย์สินติดตัวมาด้วย และไม่ได้เป็นคนรับใช้จากฝ่ายอำนาจเก่า ขอให้เตรียมตัวเสียทรัพย์นั้นได้ ก็นายกรัฐมนตรีที่มาตัวเปล่า เพราะไม่เคยทำอะไรสำเร็จเลยในชีวิตบ้าง หรือเอาเงินที่ได้มาไปฝากไว้ที่คนนั้นคนนี้แทนบ้าง เขาไม่มีอะไรให้ยึด จึงไม่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการมาเฟียเมืองหลวงอย่างคนทำงานหาเงินมาโดยสุจริตอย่างเปิดเผยมาชั่วชีวิต ถ้าใช้มาตรฐานบ้าๆ อย่างนี้เรื่อยไป นายกรัฐมนตรีที่ไร้ทรัพย์สินจะเอาอะไรมาชดใช้สิ่งที่เรียกว่าความผิดทางนโยบายกันในอนาคต?<br /><br />2. เมื่อสิ่งที่เรียกว่า \"เหตุผล\" ของรัฐมันผิดเพี้ยนไปถึงขนาดนี้ คุณยิ่งลักษณ์และผู้ถูกรีดทรัพย์ทุกๆ คนก็คงมีหน้าที่และความรับผิดชอบที่จะไม่เพี้ยนตามเขาไปด้วย นั่นคือ ต้องตั้งเป้าหมายที่จะไม่จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียวสลึงเดียว เพราะถ้ายอมจ่าย ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือในราคา \"haircut\" ก็เท่ากับว่าฝ่ายเรายอมตามลัทธิบ้าก็บ้าวะ และช่วยสานต่อความทุเรศครั้งนี้อย่างน่าชื่น ซึ่งจะกลายเป็นการสมคบโจรไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะฉะนั้น ถึงงานนี้จะมีจ่ายก็จ่ายไม่ได้ครับ <br /><br />สิ่งที่ขำก็คือยอด 35,000 ล้านบาทนี้ ว่ากันว่าเป็นยอดเหลือจากการยึดคราวก่อน เมื่อมวลชนยังดันให้คนในครอบครัวชินวัตรสู้ต่อไปจนกว่าจะเกิดมีความเป็นธรรมขึ้นในบ้านเมือง ไม่ยอมให้ยอมแพ้ ฝ่ายอำนาจเดิมก็เลยโต้กลับด้วยการยึดทรัพย์ส่วนที่เหลือ ซึ่งคาดว่าคงกระหายอยากได้มาตั้งแต่แรก เพื่อ \"ลงโทษ\" ที่ทำให้บ้านเมืองเจริญเร็วเกินไปจนขัดใจเจ้าพ่อ<br /><br />ความจริงจะมองขันๆ ก็ได้อีกว่า การบดขยี้แนวคิดจำนำข้าวเพื่อมิให้ฝ่ายประชาธิปไตยได้ชาวนาเป็นพวกนั้น ก็คงเป็นการกระทำแก้เกี้ยวเท่านั้น เพราะอีกไม่นานนัก ระบอบสิ้นคิดก็คงเอาไปทำเลียนแบบและขโมยเอามาเปลี่ยนเป็นชื่ออื่น เหมือนอีกหลายนโยบายที่ผ่านมาแล้ว ถ้าการณ์เป็นเช่นนั้นเข้าจริง ก็คงเป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอีกคดีหนึ่ง<br /><br />เมืองไทยขณะนี้มีอะไรประหลาดๆ ให้ดูอยู่ทุกวัน ผมเสียดายที่เมืองไทยต้องสาละวนอยู่กับผลของลัทธิบูชาบุคคลจนลืมการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่ทวีความรุนแรงและรวดเร็วขึ้นทุกเวลานาที จนแผนที่ประเทศไทยปัจจุบันเริ่มจะกลายเป็นหลุมดำขึ้นมาแล้ว เพราะประเทศอื่นเขาสูงขึ้น<br /><br />แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แค่เสียดายหรอกนะครับ ไม่รู้สึกไกลถึงขนาดเสียใจ เพราะแค่ได้เห็นกรรมที่สนองกรรมแบบติดจรวด จนรัฐบุรุษสร้างภาพบางคน ต้องเห็นความเสื่อมสลายของตนเองเป็นภาพจำสุดท้ายในชีวิตอันยืดยาวก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลง ผมก็ดีใจแล้วว่าสมดุลธรรมชาตินั้นมีอยู่จริง และการรอคอยของมวลชนครั้งนี้มีความคุ้มค่า<br /><br />นรกบนดินก็ร้อนหน่อยครับ เพราะบังเอิญเราต้องดูอยู่ใกล้ๆ แต่อย่าลืมว่านรกนี้ไม่ได้มีไว้เผาเรา แต่มีไว้เผาเขา ตามเรื่องราวชีวิตของ \"คนมีบุญ\" ที่นิยมทำบาป.<br /><br />จักรภพ เพ็ญแข<br />นอกราชอาณาจักรไทย<br />27 กันยายน พ.ศ. 2559.<br /><br /><a class=\"u-url mention\" href=\"https://www.minds.com/MaleeblueNews09\" target=\"_blank\">@MaleeblueNews09</a>",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/627461059552227345",
"published": "2016-09-27T11:06:11+00:00",
"source": {
"content": "ยึดทรัพย์ (วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559)โดย จักรภพ เพ็ญแข\nนี่ถ้าอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ยอมจ่ายค่าปรับ จำนวน 35,000 ล้านตามข้อกล่าวหาในโครงการการจำนำข้าวเข้าจริงๆ ก็หมายความว่าฝ่ายอำนาจเก่าสามารถยึดทรัพย์คนในครอบครัวชินวัตรก้อนใหญ่ๆ ได้อีกก้อนหนึ่ง ถัดจาก 46,000 ล้านบาทที่ยึดตรงมาจาก ดร. ทักษิณ ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิวัติเศรษฐกิจและสังคมไทยอย่างได้ผล จนนั่งกันไม่ติดที่ทั้งนายทั้งบ่าว ส่งผลกระเทือนเลื่อนลั่นครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์และทำให้ระบอบเดิมซึ่งเป็นของปลอมต้องเซซวนรวนเรไป\n\nผมนั่งดูพฤติกรรมการเตรียมยึดทรัพย์ รีดทรัพย์ ขู่กรรโชกทรัพย์ หรือเรียกกันอย่างดัดจริตว่าค่าปรับ แล้วก็เกิดความคิดขึ้น 2 อย่าง\n\n1. คำว่า ปรับ ซึ่งพูดกันตรงๆ คือยึดทรัพย์ในเมืองไทยขณะนี้ กำลังสร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นกลางเมือง นั่นคือ ใครที่เข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองแบบมีเงินทองทรัพย์สินติดตัวมาด้วย และไม่ได้เป็นคนรับใช้จากฝ่ายอำนาจเก่า ขอให้เตรียมตัวเสียทรัพย์นั้นได้ ก็นายกรัฐมนตรีที่มาตัวเปล่า เพราะไม่เคยทำอะไรสำเร็จเลยในชีวิตบ้าง หรือเอาเงินที่ได้มาไปฝากไว้ที่คนนั้นคนนี้แทนบ้าง เขาไม่มีอะไรให้ยึด จึงไม่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการมาเฟียเมืองหลวงอย่างคนทำงานหาเงินมาโดยสุจริตอย่างเปิดเผยมาชั่วชีวิต ถ้าใช้มาตรฐานบ้าๆ อย่างนี้เรื่อยไป นายกรัฐมนตรีที่ไร้ทรัพย์สินจะเอาอะไรมาชดใช้สิ่งที่เรียกว่าความผิดทางนโยบายกันในอนาคต?\n\n2. เมื่อสิ่งที่เรียกว่า \"เหตุผล\" ของรัฐมันผิดเพี้ยนไปถึงขนาดนี้ คุณยิ่งลักษณ์และผู้ถูกรีดทรัพย์ทุกๆ คนก็คงมีหน้าที่และความรับผิดชอบที่จะไม่เพี้ยนตามเขาไปด้วย นั่นคือ ต้องตั้งเป้าหมายที่จะไม่จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียวสลึงเดียว เพราะถ้ายอมจ่าย ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือในราคา \"haircut\" ก็เท่ากับว่าฝ่ายเรายอมตามลัทธิบ้าก็บ้าวะ และช่วยสานต่อความทุเรศครั้งนี้อย่างน่าชื่น ซึ่งจะกลายเป็นการสมคบโจรไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะฉะนั้น ถึงงานนี้จะมีจ่ายก็จ่ายไม่ได้ครับ \n\nสิ่งที่ขำก็คือยอด 35,000 ล้านบาทนี้ ว่ากันว่าเป็นยอดเหลือจากการยึดคราวก่อน เมื่อมวลชนยังดันให้คนในครอบครัวชินวัตรสู้ต่อไปจนกว่าจะเกิดมีความเป็นธรรมขึ้นในบ้านเมือง ไม่ยอมให้ยอมแพ้ ฝ่ายอำนาจเดิมก็เลยโต้กลับด้วยการยึดทรัพย์ส่วนที่เหลือ ซึ่งคาดว่าคงกระหายอยากได้มาตั้งแต่แรก เพื่อ \"ลงโทษ\" ที่ทำให้บ้านเมืองเจริญเร็วเกินไปจนขัดใจเจ้าพ่อ\n\nความจริงจะมองขันๆ ก็ได้อีกว่า การบดขยี้แนวคิดจำนำข้าวเพื่อมิให้ฝ่ายประชาธิปไตยได้ชาวนาเป็นพวกนั้น ก็คงเป็นการกระทำแก้เกี้ยวเท่านั้น เพราะอีกไม่นานนัก ระบอบสิ้นคิดก็คงเอาไปทำเลียนแบบและขโมยเอามาเปลี่ยนเป็นชื่ออื่น เหมือนอีกหลายนโยบายที่ผ่านมาแล้ว ถ้าการณ์เป็นเช่นนั้นเข้าจริง ก็คงเป็นการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอีกคดีหนึ่ง\n\nเมืองไทยขณะนี้มีอะไรประหลาดๆ ให้ดูอยู่ทุกวัน ผมเสียดายที่เมืองไทยต้องสาละวนอยู่กับผลของลัทธิบูชาบุคคลจนลืมการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่ทวีความรุนแรงและรวดเร็วขึ้นทุกเวลานาที จนแผนที่ประเทศไทยปัจจุบันเริ่มจะกลายเป็นหลุมดำขึ้นมาแล้ว เพราะประเทศอื่นเขาสูงขึ้น\n\nแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แค่เสียดายหรอกนะครับ ไม่รู้สึกไกลถึงขนาดเสียใจ เพราะแค่ได้เห็นกรรมที่สนองกรรมแบบติดจรวด จนรัฐบุรุษสร้างภาพบางคน ต้องเห็นความเสื่อมสลายของตนเองเป็นภาพจำสุดท้ายในชีวิตอันยืดยาวก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลง ผมก็ดีใจแล้วว่าสมดุลธรรมชาตินั้นมีอยู่จริง และการรอคอยของมวลชนครั้งนี้มีความคุ้มค่า\n\nนรกบนดินก็ร้อนหน่อยครับ เพราะบังเอิญเราต้องดูอยู่ใกล้ๆ แต่อย่าลืมว่านรกนี้ไม่ได้มีไว้เผาเรา แต่มีไว้เผาเขา ตามเรื่องราวชีวิตของ \"คนมีบุญ\" ที่นิยมทำบาป.\n\nจักรภพ เพ็ญแข\nนอกราชอาณาจักรไทย\n27 กันยายน พ.ศ. 2559.\n\n@MaleeblueNews09",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627461059552227345/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627323057601519616",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"content": "การลุกขึ้นมาอีกครั้งของประชาชนแดง การปรับสีของพี่น้องสีอื่น ๆ การมีข่าวเกี่ยวกับความชัวและกรรมอันน่าขยะแขยงของฝ่ายมาร การแสดงยุทธศาสตร์หลากหลายของมดแดง และความคิดสร้างสรรค์ที่เราเห็น แสดงว่า ในขณะที่ประชาชนกำลังตื่นรุ้และเข้มแข็ง ฝ่ายมารครองเมือง กำลังเสื่อมสลาย และคงหนีผลกรรมไม่พ้น ต้องท่องคาถาไว้นะครับ กูไม่เอามึง... <br /><br />Dr.Piangdin Rakthai <a class=\"u-url mention\" href=\"https://www.minds.com/MaleeblueNews09\" target=\"_blank\">@MaleeblueNews09</a>",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/followers"
],
"tag": [
{
"type": "Mention",
"href": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575400920209170444",
"name": "@MaleeblueNews09"
}
],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/627323057601519616",
"published": "2016-09-27T01:57:49+00:00",
"source": {
"content": "การลุกขึ้นมาอีกครั้งของประชาชนแดง การปรับสีของพี่น้องสีอื่น ๆ การมีข่าวเกี่ยวกับความชัวและกรรมอันน่าขยะแขยงของฝ่ายมาร การแสดงยุทธศาสตร์หลากหลายของมดแดง และความคิดสร้างสรรค์ที่เราเห็น แสดงว่า ในขณะที่ประชาชนกำลังตื่นรุ้และเข้มแข็ง ฝ่ายมารครองเมือง กำลังเสื่อมสลาย และคงหนีผลกรรมไม่พ้น ต้องท่องคาถาไว้นะครับ กูไม่เอามึง... \n\nDr.Piangdin Rakthai @MaleeblueNews09",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627323057601519616/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627070912960671748",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"content": "มีท่านผู้อ่านบทความ ทางบ้าน มาสอบถาม ผมว่า กรณีน้ำท่วมในปีพ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ท่านนายกปู มารับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของ ไทย <br /><br />จะยกเอาเหตุดังกล่าว ไปสอบสวน ลงโทษ ท่านได้หรือไม่? <br /><br />ผมขอตอบสั้นๆว่า เป็น เรื่องเหลือเชื่อ และ ทำไม่ได้ไม่ว่า ในระบบกฎหมายของ ประเทศนี้ หรือ ประเทศใดๆในโลก ด้วยเหตุผลประกอบดังต่อไปนี้: <br /><br />๑. ต้องตั้งคำถาม ถามว่า นายกปู เข้ามารับตำแหน่งเมื่อใด? น้ำเริ่มท่วมเมื่อใด?<br /><br />๒. Act of God ่หรือ เรา จะพูดว่า \"เป็นเหตุสุดวิสัย นั้น มีกฎหมาย ในชาติใด? ที่สามารถ ไปควบคุม ได้บ้าง? <br /><br />๓. ขอให้ลองนำมาแสดง ให้ ผมดูหน่อยซิ ครับ ก่อนทีเรา จะไปบังคับ ให้บุคคลใดๆต้องมี ความรับผิด ในผลของน้ำท่วมในคราวนั้น <br /><br />๔. น้ำท่วมในครั้งนั้น ซึ่งเป็น \"เหตุสุดวิสัย\" หรือ \"Act of God\" ฉะนั้น เมื่อกฎหมายไม่อาจเอื้อม ไปครอบคลุม \"เหตุสุดวิสัย\" หรือ \"Act of God\" ได้<br /><br />๕. กฎหมายไม่ว่าชาติใดๆในโลก ไม่อาจห้าม \"เหตุสุดวิสัย\" ได้ เพราะเป็น \"Act of God\" กฎหมาย ในประเทศนี้ ก็เช่นกัน ไม่อาจบัญญัติ ให้ครอบคลุม หรือ \"ห้ามเหตุสุดวิสัย\" ไม่ให้เกิดได้<br /><br />๖. จึงไม่อาจใช้เหตุนี้ ไปใช้ลงโทษ บุคคลใดๆ ในโลกใบนี้ได้ หากทำไป โลกทั้งใบ เขาจะประณาม (Condemn) ประเทศไทย หนักกว่านี้ และ ก็จะพาประเทศ ไปสู่หุบเหวมรณะ ครับ<br /><br />เอวัง ก็มี ด้วยเหตุประการ ฉะนี้. ,,,\"Thanaboon Chiranuvat, Michelle Maleeblue, <a class=\"u-url mention\" href=\"https://www.minds.com/MaleeblueNews09\" target=\"_blank\">@MaleeblueNews09</a>",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/followers"
],
"tag": [
{
"type": "Mention",
"href": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575400920209170444",
"name": "@MaleeblueNews09"
}
],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/627070912960671748",
"published": "2016-09-26T09:15:53+00:00",
"source": {
"content": "มีท่านผู้อ่านบทความ ทางบ้าน มาสอบถาม ผมว่า กรณีน้ำท่วมในปีพ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ท่านนายกปู มารับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของ ไทย \n\nจะยกเอาเหตุดังกล่าว ไปสอบสวน ลงโทษ ท่านได้หรือไม่? \n\nผมขอตอบสั้นๆว่า เป็น เรื่องเหลือเชื่อ และ ทำไม่ได้ไม่ว่า ในระบบกฎหมายของ ประเทศนี้ หรือ ประเทศใดๆในโลก ด้วยเหตุผลประกอบดังต่อไปนี้: \n\n๑. ต้องตั้งคำถาม ถามว่า นายกปู เข้ามารับตำแหน่งเมื่อใด? น้ำเริ่มท่วมเมื่อใด?\n\n๒. Act of God ่หรือ เรา จะพูดว่า \"เป็นเหตุสุดวิสัย นั้น มีกฎหมาย ในชาติใด? ที่สามารถ ไปควบคุม ได้บ้าง? \n\n๓. ขอให้ลองนำมาแสดง ให้ ผมดูหน่อยซิ ครับ ก่อนทีเรา จะไปบังคับ ให้บุคคลใดๆต้องมี ความรับผิด ในผลของน้ำท่วมในคราวนั้น \n\n๔. น้ำท่วมในครั้งนั้น ซึ่งเป็น \"เหตุสุดวิสัย\" หรือ \"Act of God\" ฉะนั้น เมื่อกฎหมายไม่อาจเอื้อม ไปครอบคลุม \"เหตุสุดวิสัย\" หรือ \"Act of God\" ได้\n\n๕. กฎหมายไม่ว่าชาติใดๆในโลก ไม่อาจห้าม \"เหตุสุดวิสัย\" ได้ เพราะเป็น \"Act of God\" กฎหมาย ในประเทศนี้ ก็เช่นกัน ไม่อาจบัญญัติ ให้ครอบคลุม หรือ \"ห้ามเหตุสุดวิสัย\" ไม่ให้เกิดได้\n\n๖. จึงไม่อาจใช้เหตุนี้ ไปใช้ลงโทษ บุคคลใดๆ ในโลกใบนี้ได้ หากทำไป โลกทั้งใบ เขาจะประณาม (Condemn) ประเทศไทย หนักกว่านี้ และ ก็จะพาประเทศ ไปสู่หุบเหวมรณะ ครับ\n\nเอวัง ก็มี ด้วยเหตุประการ ฉะนี้. ,,,\"Thanaboon Chiranuvat, Michelle Maleeblue, @MaleeblueNews09",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627070912960671748/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627042430436253701",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"content": "Red Usa, คนละไล้ค์คนละแชร์จากกูต้องได้ 100 ล้านฯ ไอ้ควายตู้พูดมาได้ว่า \"ห่วงน้องชาย\" แถมพูดขู่ว่า \"เรื่องที่ถูกโจมตีมันจริงหรือเปล่า\"<br />\"พิสูจน์หรือยังว่ามันผิด\"<br />1. มึงห่วงน้องชายมากกว่าจะ แก้ปัญหาคอรัปชั่นเหรอ มึงนะบอกเองไอ้ควายตู้ว่า รักชาติ เกลียดคอรัปชั่น มาปราบคอรัปชั่น แต่พอน้องตัวเองและครอบครัวมีข้อครหาพัวพันคอรัปชั่น กลับออกมาพูดปกป้อง<br />2. มันจริงหรือเปล่า ต้องแยกว่าเรื่องอะไร<br />2.1 เรื่องฝาย <br />เรื่องฝายนี้ไม่คุ้ม กูตั้งชื่อให้ว่าฝายผ่องพัง แล้วสุดท้ายมอบฝายไป 11 วันเป็นไงล่ะ ตลิ่งพัง กักน้ำไม่ได้ แบบนี้มันพังจริงหรือเปล่า ไอ้ควายตู้<br />ที่คนเขาด่า ไม่ใช่ว่าเมียน้อง(อีสันฝาย) ไปสร้างฝายช่วยชาวบ้าน แต่ที่คนด่า คือความไม่เหมาะสมในการวางตัว การจัดพิธีต้อนรับที่ใหญ่โตเกินจริง เกินงาม เกินพอดี และไม่ได้ทำแค่ครั้งเดียว อีสันฝายมันทำพฤติกรรมแบบนี้มานานแล้ว แล้วยังมีเรื่องการนั่งเครื่องราชการอีกเพราะมันไม่คุ้ม ค่าฝาย 7,800 แต่ค่าเครื่องค่าต้อนรับหมดเป็นล้าน คนเขาถามกันให้แซดว่า \"เอาเงินค่าเอาหน้า งบสิ้นเปลือง ไปสร้างฝายหรือเก็บไว้ช่วยชาวบ้านจะดีกว่าไหม\"<br />สรุป อีสันฝายมันไปทำน่ะแพงเกินจริง <br />และไม่คุ้มจริงๆ ใช่ไหม<br />2.2 เรื่องฝากลูกชายเข้าทหาร มันก็จริงทั้งเพ คนเขาพูดเรื่องจริง ไม่ได้โกหกอะไร ตัวเองเป็นปลัด เซ็นคำสั่งลับ ให้บรรจุลูกตนเอง ไม่มีการเปิดสอบแบบสาธารณะ ไม่มีการประกาศให้คนร่วมรับรู้<br />ทำอย่างกับเปิดประตูหลังบ้านของกระทรวง แล้วเรียกให้ลูกชายของตัวเองเข้ามา โดยไม่ต้องไปสอบแข่งกันกับลูกคนอื่นๆที่หน้าบ้านหน้ากระทรวง แบบนี้แย่จริงไหม<br />2.3 เรื่อง หจก.ของลูกชายมารับงานกองทัพ<br />2.3.1 จดทะเบียนหจก.ในบ้านพักทหาร จริงตามเอกสารที่เอามาแสดง นี่ไม่ใช่เรื่องโกหกอะไรสักนิด แล้วก็ไปรับงาน ทภ.3 ที่พ่อตัวเองเคยเป็นแม่ทัพ แถมที่อยู่บริษัทก็ตั้งอยู่ใน ทภ.3 นั่นแหละด้วย<br />2.3.2 เรื่องทุนจดทะเบียน ประสบการณ์ และอุปกรณ์ หจก.ของปฐมพล อ่อนประสบการณ์ อุปกรณ์ไม่พอ มารับงานจากทภ.3 จริง จึงเกิดคำถามว่า ทำไมจึงได้งาน ในเมื่อมีบริษัทใหญ่ศักยภาพสูงมาร่วมเป็นคู่เทียบราคาให้ ซึ่งหากดูสภาพตามจริง สิ่งที่ควรเป็นคือการพิจารณาสิ่งเหล่านี้ประกอบด้วย หากไม่มีการทุจริต เป็นได้หรือว่า หจก.กิ๊กก๊อกแบบนี้จะได้งาน<br />3. พิสูจน์หรือยังว่ามันผิด<br />คนเขารู้แล้วว่ายังไงก็ออกมาไม่ผิด เพราะจะปกป้องน้องชายตนเองอย่างแน่นอน แม้จะผิดจริยธรรมก็ไม่สนใจ คงอาศัยอำนาจตาม รธน.ชั่วคราว 2557 มาตรา 48 ปกป้องและนิรโทษกรรมให้ตนเอง แค่ทำหน้าด้านเข้าไว้ เพราะต่อไปมีรัฐธรรมนูญใหม่ ม.279 ก็สืบต่ออำนาจนิรโทษกรรมให้คสช.ต่อไปอีกอย่างน้อยๆ 5 ปี ซึ่งหากเป็นตามนี้ ทางกฎหมายอาจไม่ผิด<br />แต่ผิดทางคุณธรรม จริยธรรมแบบเต็มๆ เพราะมีทั้งเรื่องเอื้อประโยชน์แก่คนในครอบครัว ทุจริตคอรัปชั่น ใช้งบประมาณเกินความจำเป็น ใช้งบประมาณไม่คุ้มค่าคุ้มราคา แล้วไหนจะมีข้อครหาเรื่องประโยชน์ทับซ้อนอีก แบบนี้เรียกว่า มีทั้งข้อครหาและมีทั้งหลักฐานออกมาแล้วแต่ยังหน้าด้านออกมาแถเพื่อปกป้องช่วยเหลือกันเองอีก<br />ผิดหลักคุณธรรม จริยธรรม ผิดหลักความโปร่งใส ผิดหลักการถูกตรวจสอบได้ ผิดหลักการแถมจะเอาตามใจ ใช้ภาษีประชาชนเพลินๆแบบนี้ จะไม่ให้คนสงสัยได้เหรอ มันก็ออกจะเกินไปอยู่เหมือนกันนะไอ้ควายตู้เอ้ย<br />ช่วยกันแชร์ไปถาม ไอ้ควายตู้หน่อย <br />คนละไลค์คนละแชร์ มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลาน <br /> กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ, Red Usa, <a class=\"u-url mention\" href=\"https://www.minds.com/MaleeblueNews09\" target=\"_blank\">@MaleeblueNews09</a>",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/followers"
],
"tag": [
{
"type": "Mention",
"href": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575400920209170444",
"name": "@MaleeblueNews09"
}
],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/627042430436253701",
"published": "2016-09-26T07:22:42+00:00",
"source": {
"content": "Red Usa, คนละไล้ค์คนละแชร์จากกูต้องได้ 100 ล้านฯ ไอ้ควายตู้พูดมาได้ว่า \"ห่วงน้องชาย\" แถมพูดขู่ว่า \"เรื่องที่ถูกโจมตีมันจริงหรือเปล่า\"\n\"พิสูจน์หรือยังว่ามันผิด\"\n1. มึงห่วงน้องชายมากกว่าจะ แก้ปัญหาคอรัปชั่นเหรอ มึงนะบอกเองไอ้ควายตู้ว่า รักชาติ เกลียดคอรัปชั่น มาปราบคอรัปชั่น แต่พอน้องตัวเองและครอบครัวมีข้อครหาพัวพันคอรัปชั่น กลับออกมาพูดปกป้อง\n2. มันจริงหรือเปล่า ต้องแยกว่าเรื่องอะไร\n2.1 เรื่องฝาย \nเรื่องฝายนี้ไม่คุ้ม กูตั้งชื่อให้ว่าฝายผ่องพัง แล้วสุดท้ายมอบฝายไป 11 วันเป็นไงล่ะ ตลิ่งพัง กักน้ำไม่ได้ แบบนี้มันพังจริงหรือเปล่า ไอ้ควายตู้\nที่คนเขาด่า ไม่ใช่ว่าเมียน้อง(อีสันฝาย) ไปสร้างฝายช่วยชาวบ้าน แต่ที่คนด่า คือความไม่เหมาะสมในการวางตัว การจัดพิธีต้อนรับที่ใหญ่โตเกินจริง เกินงาม เกินพอดี และไม่ได้ทำแค่ครั้งเดียว อีสันฝายมันทำพฤติกรรมแบบนี้มานานแล้ว แล้วยังมีเรื่องการนั่งเครื่องราชการอีกเพราะมันไม่คุ้ม ค่าฝาย 7,800 แต่ค่าเครื่องค่าต้อนรับหมดเป็นล้าน คนเขาถามกันให้แซดว่า \"เอาเงินค่าเอาหน้า งบสิ้นเปลือง ไปสร้างฝายหรือเก็บไว้ช่วยชาวบ้านจะดีกว่าไหม\"\nสรุป อีสันฝายมันไปทำน่ะแพงเกินจริง \nและไม่คุ้มจริงๆ ใช่ไหม\n2.2 เรื่องฝากลูกชายเข้าทหาร มันก็จริงทั้งเพ คนเขาพูดเรื่องจริง ไม่ได้โกหกอะไร ตัวเองเป็นปลัด เซ็นคำสั่งลับ ให้บรรจุลูกตนเอง ไม่มีการเปิดสอบแบบสาธารณะ ไม่มีการประกาศให้คนร่วมรับรู้\nทำอย่างกับเปิดประตูหลังบ้านของกระทรวง แล้วเรียกให้ลูกชายของตัวเองเข้ามา โดยไม่ต้องไปสอบแข่งกันกับลูกคนอื่นๆที่หน้าบ้านหน้ากระทรวง แบบนี้แย่จริงไหม\n2.3 เรื่อง หจก.ของลูกชายมารับงานกองทัพ\n2.3.1 จดทะเบียนหจก.ในบ้านพักทหาร จริงตามเอกสารที่เอามาแสดง นี่ไม่ใช่เรื่องโกหกอะไรสักนิด แล้วก็ไปรับงาน ทภ.3 ที่พ่อตัวเองเคยเป็นแม่ทัพ แถมที่อยู่บริษัทก็ตั้งอยู่ใน ทภ.3 นั่นแหละด้วย\n2.3.2 เรื่องทุนจดทะเบียน ประสบการณ์ และอุปกรณ์ หจก.ของปฐมพล อ่อนประสบการณ์ อุปกรณ์ไม่พอ มารับงานจากทภ.3 จริง จึงเกิดคำถามว่า ทำไมจึงได้งาน ในเมื่อมีบริษัทใหญ่ศักยภาพสูงมาร่วมเป็นคู่เทียบราคาให้ ซึ่งหากดูสภาพตามจริง สิ่งที่ควรเป็นคือการพิจารณาสิ่งเหล่านี้ประกอบด้วย หากไม่มีการทุจริต เป็นได้หรือว่า หจก.กิ๊กก๊อกแบบนี้จะได้งาน\n3. พิสูจน์หรือยังว่ามันผิด\nคนเขารู้แล้วว่ายังไงก็ออกมาไม่ผิด เพราะจะปกป้องน้องชายตนเองอย่างแน่นอน แม้จะผิดจริยธรรมก็ไม่สนใจ คงอาศัยอำนาจตาม รธน.ชั่วคราว 2557 มาตรา 48 ปกป้องและนิรโทษกรรมให้ตนเอง แค่ทำหน้าด้านเข้าไว้ เพราะต่อไปมีรัฐธรรมนูญใหม่ ม.279 ก็สืบต่ออำนาจนิรโทษกรรมให้คสช.ต่อไปอีกอย่างน้อยๆ 5 ปี ซึ่งหากเป็นตามนี้ ทางกฎหมายอาจไม่ผิด\nแต่ผิดทางคุณธรรม จริยธรรมแบบเต็มๆ เพราะมีทั้งเรื่องเอื้อประโยชน์แก่คนในครอบครัว ทุจริตคอรัปชั่น ใช้งบประมาณเกินความจำเป็น ใช้งบประมาณไม่คุ้มค่าคุ้มราคา แล้วไหนจะมีข้อครหาเรื่องประโยชน์ทับซ้อนอีก แบบนี้เรียกว่า มีทั้งข้อครหาและมีทั้งหลักฐานออกมาแล้วแต่ยังหน้าด้านออกมาแถเพื่อปกป้องช่วยเหลือกันเองอีก\nผิดหลักคุณธรรม จริยธรรม ผิดหลักความโปร่งใส ผิดหลักการถูกตรวจสอบได้ ผิดหลักการแถมจะเอาตามใจ ใช้ภาษีประชาชนเพลินๆแบบนี้ จะไม่ให้คนสงสัยได้เหรอ มันก็ออกจะเกินไปอยู่เหมือนกันนะไอ้ควายตู้เอ้ย\nช่วยกันแชร์ไปถาม ไอ้ควายตู้หน่อย \nคนละไลค์คนละแชร์ มีลูกบอกลูก มีหลานบอกหลาน \n กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ, Red Usa, @MaleeblueNews09",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627042430436253701/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627034679802863625",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154",
"content": "ถ้าเพื่อนๆยังไม่ได้ส่งจดหมายฉบับนี้ช่วยกรุณาพิมพ์ออกมาแล้วจัดการส่งไปยังท่านทูตอเมริกัน Glyn T Davies ที่กรุงเทพหรือไม่ก็ ส่งไปยังโอบามาที่สหรัฐอเมกาก็ได้นะค่ะ ดิฉันให้ที่อยู่ทั้งสองแห่งแล้วค่ะ<br /><br />ส่งแห่งใดแห่งหนึ่งก็ถึงค่ะได้ทั้งนั้น<br /><br />เซ็นชื่อท่านเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้ค่ะต่อจากชื่อของดิฉันแล้วติดแสตมป์ให้ครบจะมีผลเกินคาดค่ะ ถ้าท่านลงที่อยู่ของท่าน จะได้รับการตอบรับจากท่านทูตด้วยค่ะเพราะเป็นมารยาทของนักการทูตทุกคน<br /><br />อนึ่งมีเพื่อนบางคน กลัวว่าจดหมายจะถูกเปิดออกแล้วแจ้งไปยังฝ่ายเผด็จการ ดิฉันขอบอกว่าเป็นไปไม่ได้ค่ะเพราะประเทศไทยได้ไปเซ็นสัญญากับ Universal Postal Union ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขององค์การสหประชาชาติซึ่งมีกฎเกณฑ์กฎข้อบังคับต่างๆว่าประเทศที่เป็นสมาชิกจะต้องปกป้องรักษาจดหมายทุกฉบับและส่งถึงผู้รับอย่างปลอดภัย ไม่คิดว่าเผด็จการทหารจะทำความโง่เหงาและบ้าถึงขนาดนี้หรอกค่ะ กลัวแม้กระทั่งจดหมาย<br /><br />ยิ่งนายประยุทธ์เดินทางไปปาฐกถาที่ องค์การสหประชาชาติว่าจะปกป้องสิทธิมนุษยชนทุกคนและจะดำเนินนโยบายไปสู่ประชาธิปไตยเมื่อสองวันนี้ ฉันก็หวังว่าเป็นอย่างนั้น<br /><br />การเห็นต่างเป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนทุกคนค่ะ<br /><br />จดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดี Obama แห่งสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับเผด็จการทหารในประเทศไทยและให้ท่านช่วยเหลือประชาชนผู้รักประชาธิปไตยที่ได้รับการกดขี่ รวมถึงนักโทษการเมืองทุกคนและนักโทษมาตรา 112 ด้วยค่ะ<br /><br />ท่านที่อยู่ประเทศไทยสามารถส่งจดหมายฉบับนี้โดยเซ็นชื่อของท่านต่อจากชื่อของดิฉันแล้วส่งไปยังที่อยู่ข้างล่างนี้นะคะขอบคุณค่ะ<br /><br />ที่อยู่ทูตสหรัฐในกรุงเทพฯ<br /><br />Glyn T Davies<br />US Embassy<br />120-122 Wireless Road<br />Bangkok 10330<br />Thailand<br /><br />ต่อไปนี่คือจดหมายเปิดผนึกพร้อมที่อยู่ในอเมริกา<br /><br />September 24, 2016<br /><br />President Barrack Obama<br />The White House<br />1600 Pennsylvania Ave., N.W.,<br />Washington, DC<br /><br />Dear President Obama:<br /><br />As your second term as President and Commander-in-Chief of the United States are coming to an end, we wish to introduce ourselves as Asian-Americans of Thai descent of some 500,000 socially concerned professionals working in many fields all across the country.<br /><br />We write to urge you to stop supporting the military establishment in Thailand and its current government headed by Gen. Prayuth Chan Ocha, of the so-called National Council for Peace and Order, a military junta, and currently serves as the self appointed Prime Minister of Thailand.<br /><br />U.S. foreign policy toward Thailand is not working anymore and must be modified in order to counter the growing influence of China, with which the current military regime in Thailand seems to have a cozy relationship. <br /><br />During the Vietnam and Cold War era, the U.S. government feared communism and was willing to use every available means to suppress its expansion, even if that meant supporting military dictators or, at times, tyrannical monarchs. That was then. <br /><br />Thai people today are better informed than ever before, and the majority crave for a true democracy, as we Thai-Americans enjoy our great democracy here. <br /><br />Thai people admire our way of life and our political system whereby government is of the people by the people and for the people. Thai people long for the democracy we have and the freedom of expression we cherish so dearly. On the other hand Thais are confused, like many, by continued U.S. support for tyrants and dictators around the world and in Thailand. <br /><br />In the light of the continued oppression of freedom of speech in Thailand by the military junta, things can not be business as usual in so far as our foreign policy toward Thailand is concerned<br /> <br />What we want is for our brothers and sisters back home to live in peace in a truly democratic society, without constant fear of vicious reprisals for saying what they think. <br /><br />In Thailand people are prohibited by the fearful, draconian laws of lèse majesté from criticizing or commenting the Monarchy, even when such comments are based on plain truth and fully justified. <br /><br />The penalty for lèse majesté (insulting the power of the King) is 3 - 15 years for each and every offence. Under constant threat of closure and sentencing, Thai media is forced to adopt nothing less than absolutely positive tone with regard to the Monarchy.<br /><br />According to the current Thai Constitution, Thai Monarch is Head of State, Supreme Commander of the Arms Forces and he appoints all the judges. He is also head of the largest business conglomerate in Thailand and, personally, the top investor in the Stock Exchange of Thailand. None of this may be commented critically by Thai people without real risk of victimisation and imprisonment. <br /><br />We want that everybody in Thailand, not just the Bangkok elite, have equal opportunity to obtain good education for their children and have equal access to health care.<br /><br />The peace-loving and democracy activists in Thailand today number about 55 millions. They are absolutely not communists nor terrorists, they are ordinary freedom-loving Thai, people just like us - the American people, people struggling - like the people of Tunisia, Syria or Egypt - for their most basic rights. <br /><br />It is very wrong that US-trained Thai snipers are using our M16 rifles to kill unarmed civilians during the last massacre ordered by Abhisit Vejjajiva and Suthep Tuerdsuwan of the misnamed Democrat Party.<br /><br />In sum, we urge you to re-assess U.S. policy in Thailand in light of the new and rapidly changing political climate there.<br /><br />We urge you to stop all military aid to Thailand until there is a strict condition in place to guarantee that the Thai military cannot use U.S. weapons against peaceful demonstrators.<br /><br />We urge you to issue a formal request for the immediate release of all political prisoners including pro-democracy activists and lèse majesté prisoners, and for the dismissal of all pending lèse majesté cases.<br /><br />We request that you remove Thailand from our list of Most Favoured Nations if the above requests are denied.<br /><br />If the above objectives are achieved, the USA will remain forever in the hearts and minds of all Thai people who value democracy - in Thailand and all over the world. <br /><br />With our deepest sincerity,<br /><br />We thank you.<br /><br />Narisara Viwatchara ___________________<br />Ithaca, New York. เซ็นชื่อท่าน.....!<br /><br />Credit:Narisara Viwatchara, <a class=\"u-url mention\" href=\"https://www.minds.com/MaleeblueNews09\" target=\"_blank\">@MaleeblueNews09</a>",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/followers"
],
"tag": [
{
"type": "Mention",
"href": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575400920209170444",
"name": "@MaleeblueNews09"
}
],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/627034679802863625",
"published": "2016-09-26T06:51:54+00:00",
"source": {
"content": "ถ้าเพื่อนๆยังไม่ได้ส่งจดหมายฉบับนี้ช่วยกรุณาพิมพ์ออกมาแล้วจัดการส่งไปยังท่านทูตอเมริกัน Glyn T Davies ที่กรุงเทพหรือไม่ก็ ส่งไปยังโอบามาที่สหรัฐอเมกาก็ได้นะค่ะ ดิฉันให้ที่อยู่ทั้งสองแห่งแล้วค่ะ\n\nส่งแห่งใดแห่งหนึ่งก็ถึงค่ะได้ทั้งนั้น\n\nเซ็นชื่อท่านเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้ค่ะต่อจากชื่อของดิฉันแล้วติดแสตมป์ให้ครบจะมีผลเกินคาดค่ะ ถ้าท่านลงที่อยู่ของท่าน จะได้รับการตอบรับจากท่านทูตด้วยค่ะเพราะเป็นมารยาทของนักการทูตทุกคน\n\nอนึ่งมีเพื่อนบางคน กลัวว่าจดหมายจะถูกเปิดออกแล้วแจ้งไปยังฝ่ายเผด็จการ ดิฉันขอบอกว่าเป็นไปไม่ได้ค่ะเพราะประเทศไทยได้ไปเซ็นสัญญากับ Universal Postal Union ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขององค์การสหประชาชาติซึ่งมีกฎเกณฑ์กฎข้อบังคับต่างๆว่าประเทศที่เป็นสมาชิกจะต้องปกป้องรักษาจดหมายทุกฉบับและส่งถึงผู้รับอย่างปลอดภัย ไม่คิดว่าเผด็จการทหารจะทำความโง่เหงาและบ้าถึงขนาดนี้หรอกค่ะ กลัวแม้กระทั่งจดหมาย\n\nยิ่งนายประยุทธ์เดินทางไปปาฐกถาที่ องค์การสหประชาชาติว่าจะปกป้องสิทธิมนุษยชนทุกคนและจะดำเนินนโยบายไปสู่ประชาธิปไตยเมื่อสองวันนี้ ฉันก็หวังว่าเป็นอย่างนั้น\n\nการเห็นต่างเป็นสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนทุกคนค่ะ\n\nจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดี Obama แห่งสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับเผด็จการทหารในประเทศไทยและให้ท่านช่วยเหลือประชาชนผู้รักประชาธิปไตยที่ได้รับการกดขี่ รวมถึงนักโทษการเมืองทุกคนและนักโทษมาตรา 112 ด้วยค่ะ\n\nท่านที่อยู่ประเทศไทยสามารถส่งจดหมายฉบับนี้โดยเซ็นชื่อของท่านต่อจากชื่อของดิฉันแล้วส่งไปยังที่อยู่ข้างล่างนี้นะคะขอบคุณค่ะ\n\nที่อยู่ทูตสหรัฐในกรุงเทพฯ\n\nGlyn T Davies\nUS Embassy\n120-122 Wireless Road\nBangkok 10330\nThailand\n\nต่อไปนี่คือจดหมายเปิดผนึกพร้อมที่อยู่ในอเมริกา\n\nSeptember 24, 2016\n\nPresident Barrack Obama\nThe White House\n1600 Pennsylvania Ave., N.W.,\nWashington, DC\n\nDear President Obama:\n\nAs your second term as President and Commander-in-Chief of the United States are coming to an end, we wish to introduce ourselves as Asian-Americans of Thai descent of some 500,000 socially concerned professionals working in many fields all across the country.\n\nWe write to urge you to stop supporting the military establishment in Thailand and its current government headed by Gen. Prayuth Chan Ocha, of the so-called National Council for Peace and Order, a military junta, and currently serves as the self appointed Prime Minister of Thailand.\n\nU.S. foreign policy toward Thailand is not working anymore and must be modified in order to counter the growing influence of China, with which the current military regime in Thailand seems to have a cozy relationship. \n\nDuring the Vietnam and Cold War era, the U.S. government feared communism and was willing to use every available means to suppress its expansion, even if that meant supporting military dictators or, at times, tyrannical monarchs. That was then. \n\nThai people today are better informed than ever before, and the majority crave for a true democracy, as we Thai-Americans enjoy our great democracy here. \n\nThai people admire our way of life and our political system whereby government is of the people by the people and for the people. Thai people long for the democracy we have and the freedom of expression we cherish so dearly. On the other hand Thais are confused, like many, by continued U.S. support for tyrants and dictators around the world and in Thailand. \n\nIn the light of the continued oppression of freedom of speech in Thailand by the military junta, things can not be business as usual in so far as our foreign policy toward Thailand is concerned\n \nWhat we want is for our brothers and sisters back home to live in peace in a truly democratic society, without constant fear of vicious reprisals for saying what they think. \n\nIn Thailand people are prohibited by the fearful, draconian laws of lèse majesté from criticizing or commenting the Monarchy, even when such comments are based on plain truth and fully justified. \n\nThe penalty for lèse majesté (insulting the power of the King) is 3 - 15 years for each and every offence. Under constant threat of closure and sentencing, Thai media is forced to adopt nothing less than absolutely positive tone with regard to the Monarchy.\n\nAccording to the current Thai Constitution, Thai Monarch is Head of State, Supreme Commander of the Arms Forces and he appoints all the judges. He is also head of the largest business conglomerate in Thailand and, personally, the top investor in the Stock Exchange of Thailand. None of this may be commented critically by Thai people without real risk of victimisation and imprisonment. \n\nWe want that everybody in Thailand, not just the Bangkok elite, have equal opportunity to obtain good education for their children and have equal access to health care.\n\nThe peace-loving and democracy activists in Thailand today number about 55 millions. They are absolutely not communists nor terrorists, they are ordinary freedom-loving Thai, people just like us - the American people, people struggling - like the people of Tunisia, Syria or Egypt - for their most basic rights. \n\nIt is very wrong that US-trained Thai snipers are using our M16 rifles to kill unarmed civilians during the last massacre ordered by Abhisit Vejjajiva and Suthep Tuerdsuwan of the misnamed Democrat Party.\n\nIn sum, we urge you to re-assess U.S. policy in Thailand in light of the new and rapidly changing political climate there.\n\nWe urge you to stop all military aid to Thailand until there is a strict condition in place to guarantee that the Thai military cannot use U.S. weapons against peaceful demonstrators.\n\nWe urge you to issue a formal request for the immediate release of all political prisoners including pro-democracy activists and lèse majesté prisoners, and for the dismissal of all pending lèse majesté cases.\n\nWe request that you remove Thailand from our list of Most Favoured Nations if the above requests are denied.\n\nIf the above objectives are achieved, the USA will remain forever in the hearts and minds of all Thai people who value democracy - in Thailand and all over the world. \n\nWith our deepest sincerity,\n\nWe thank you.\n\nNarisara Viwatchara ___________________\nIthaca, New York. เซ็นชื่อท่าน.....!\n\nCredit:Narisara Viwatchara, @MaleeblueNews09",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/entities/urn:activity:627034679802863625/activity"
}
],
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/outbox",
"partOf": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/617365551873798154/outboxoutbox"
}