A small tool to view real-world ActivityPub objects as JSON! Enter a URL
or username from Mastodon or a similar service below, and we'll send a
request with
the right
Accept
header
to the server to view the underlying object.
{
"@context": "https://www.w3.org/ns/activitystreams",
"type": "OrderedCollectionPage",
"orderedItems": [
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1121451936225865728",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"content": "ตร.ขอนแก่นเฝ้าจุดสำคัญทั่วเมือง 24 ชม. รับมือชุมนุมวันครบรอบปฏิวัติสยาม<br /><br /><a href=\"https://prachatai.com/journal/2020/06/88252\" target=\"_blank\">https://prachatai.com/journal/2020/06/88252</a>",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/1121451936225865728",
"published": "2020-06-21T14:49:37+00:00",
"source": {
"content": "ตร.ขอนแก่นเฝ้าจุดสำคัญทั่วเมือง 24 ชม. รับมือชุมนุมวันครบรอบปฏิวัติสยาม\n\nhttps://prachatai.com/journal/2020/06/88252",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1121451936225865728/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1121334631703429120",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"content": "สุริยุปราคา หรือ สุริยคราส เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก โคจรมาเรียงอยู่ในแนวเดียวกันโดยมีดวงจันทร์อยู่ตรงกลาง เกิดขึ้นเฉพาะในวันที่ดวงจันทร์มีดิถีตรงกับจันทร์ดับ เมื่อสังเกตจากพื้นโลกจะเห็นดวงจันทร์เคลื่อนเข้ามาบดบังดวงอาทิตย์ โดยอาจบังมิดหมดทั้งดวงหรือบางส่วนก็ได้ ในแต่ละปีสามารถเกิดสุริยุปราคาบนโลกได้อย่างน้อย 2 ครั้ง สูงสุดไม่เกิน 5 ครั้ง ในจำนวนนี้อาจไม่มีสุริยุปราคาเต็มดวงเลยแม้แต่ครั้งเดียว หรืออย่างมากไม่เกิน 2 ครั้ง โอกาสที่จะได้เห็นสุริยุปราคาเต็มดวงสำหรับสถานที่ใดสถานที่หนึ่งบนพื้นโลกนั้นค่อนข้างยาก เนื่องจากสุริยุปราคาเต็มดวงแต่ละครั้งจะเกิดในบริเวณแคบ ๆ ภายในแถบที่เงามืดของดวงจันทร์พาดผ่านเท่านั้น<br /><br />สุริยุปราคาเต็มดวงเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สวยงาม น่าตื่นเต้น และสร้างความประทับใจแก่คนที่ได้ชม ผู้คนจำนวนมากต่างพากันเดินทางไปยังดินแดนอันห่างไกลเพื่อคอยเฝ้าสังเกตปรากฏการณ์นี้ สุริยุปราคาเต็มดวงเมื่อ พ.ศ. 2542 ที่เห็นได้ในทวีปยุโรป ทำให้สาธารณชนหันมาสนใจสุริยุปราคาเพิ่มขึ้นมาก สังเกตได้จากจำนวนประชาชนที่เดินทางไปเฝ้าสังเกตสุริยุปราคาวงแหวนใน พ.ศ. 2548 และสุริยุปราคาเต็มดวงใน พ.ศ. 2549 สุริยุปราคาครั้งที่ผ่านมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ คือสุริยุปราคาวงแหวนเมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552 สุริยุปราคาเต็มดวงเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 และสุริยุปราคาบางส่วนเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/1121334631703429120",
"published": "2020-06-21T07:03:28+00:00",
"source": {
"content": "สุริยุปราคา หรือ สุริยคราส เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก โคจรมาเรียงอยู่ในแนวเดียวกันโดยมีดวงจันทร์อยู่ตรงกลาง เกิดขึ้นเฉพาะในวันที่ดวงจันทร์มีดิถีตรงกับจันทร์ดับ เมื่อสังเกตจากพื้นโลกจะเห็นดวงจันทร์เคลื่อนเข้ามาบดบังดวงอาทิตย์ โดยอาจบังมิดหมดทั้งดวงหรือบางส่วนก็ได้ ในแต่ละปีสามารถเกิดสุริยุปราคาบนโลกได้อย่างน้อย 2 ครั้ง สูงสุดไม่เกิน 5 ครั้ง ในจำนวนนี้อาจไม่มีสุริยุปราคาเต็มดวงเลยแม้แต่ครั้งเดียว หรืออย่างมากไม่เกิน 2 ครั้ง โอกาสที่จะได้เห็นสุริยุปราคาเต็มดวงสำหรับสถานที่ใดสถานที่หนึ่งบนพื้นโลกนั้นค่อนข้างยาก เนื่องจากสุริยุปราคาเต็มดวงแต่ละครั้งจะเกิดในบริเวณแคบ ๆ ภายในแถบที่เงามืดของดวงจันทร์พาดผ่านเท่านั้น\n\nสุริยุปราคาเต็มดวงเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สวยงาม น่าตื่นเต้น และสร้างความประทับใจแก่คนที่ได้ชม ผู้คนจำนวนมากต่างพากันเดินทางไปยังดินแดนอันห่างไกลเพื่อคอยเฝ้าสังเกตปรากฏการณ์นี้ สุริยุปราคาเต็มดวงเมื่อ พ.ศ. 2542 ที่เห็นได้ในทวีปยุโรป ทำให้สาธารณชนหันมาสนใจสุริยุปราคาเพิ่มขึ้นมาก สังเกตได้จากจำนวนประชาชนที่เดินทางไปเฝ้าสังเกตสุริยุปราคาวงแหวนใน พ.ศ. 2548 และสุริยุปราคาเต็มดวงใน พ.ศ. 2549 สุริยุปราคาครั้งที่ผ่านมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ คือสุริยุปราคาวงแหวนเมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2552 สุริยุปราคาเต็มดวงเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 และสุริยุปราคาบางส่วนเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1121334631703429120/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1120520704021684224",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"content": "คลิปเต็มรายการ ข่าว3มิติ วันที่ 18 มิถุนายน 2563<br /><br />3mitinews<br />ผู้ติดตาม 4.16 แสน คน<br /><br />คลิปเต็มรายการ <a href=\"https://www.minds.com/search?f=top&t=all&q=ข่าว3มิติ\" title=\"#ข่าว3มิติ\" class=\"u-url hashtag\" target=\"_blank\">#ข่าว3มิติ</a> วันที่ 18 มิถุนายน 2563<br /><br />ปมพิพาทศึกชิงหอยอ่าวบ้านดอน<br /><br />แกะรอยคดีน้องชมพู่ <br /><br />ศบค.แถลงไทยไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกัน 24 วัน<br /><br />WHO ประกาศยุติการทดลองใช้ 'ไฮดรอกซีคลอโรควิน' รักษาโควิด-19 พบไม่ช่วยลดยอดเสียชีวิต<br /><br />วัคซีนป้องกันโควิด-19 จากโปรตีนพืช คิดค้นโดยทีมวิจัยไทย<br /><br />ตอบชัด! 'หญิงหน่อย' ยันเป็นไปไม่ได้ ข่าวลือจับมือ พปชร.ตั้งพรรคใหม่<br /><br />ประเด็นข่าวรอบวัน 18 มิ.ย.63 - 'บิ๊กป้อม' ลงพื้นที่ลำปาง แก้ภัยแล้ง <br /><br /><br />***********************************************<br />รายการ ข่าว3มิติ <br />ออกอากาศทุกวันทางช่อง 3 / 33HD เวลา22.30น. <br />ติดต่อทีมข่าวได้ที่ <br /><a href=\"https://www.facebook.com/3mitinews/\" target=\"_blank\">https://www.facebook.com/3mitinews/</a><br />",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/1120520704021684224",
"published": "2020-06-19T01:09:14+00:00",
"source": {
"content": "คลิปเต็มรายการ ข่าว3มิติ วันที่ 18 มิถุนายน 2563\n\n3mitinews\nผู้ติดตาม 4.16 แสน คน\n\nคลิปเต็มรายการ #ข่าว3มิติ วันที่ 18 มิถุนายน 2563\n\nปมพิพาทศึกชิงหอยอ่าวบ้านดอน\n\nแกะรอยคดีน้องชมพู่ \n\nศบค.แถลงไทยไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศติดต่อกัน 24 วัน\n\nWHO ประกาศยุติการทดลองใช้ 'ไฮดรอกซีคลอโรควิน' รักษาโควิด-19 พบไม่ช่วยลดยอดเสียชีวิต\n\nวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากโปรตีนพืช คิดค้นโดยทีมวิจัยไทย\n\nตอบชัด! 'หญิงหน่อย' ยันเป็นไปไม่ได้ ข่าวลือจับมือ พปชร.ตั้งพรรคใหม่\n\nประเด็นข่าวรอบวัน 18 มิ.ย.63 - 'บิ๊กป้อม' ลงพื้นที่ลำปาง แก้ภัยแล้ง \n\n\n***********************************************\nรายการ ข่าว3มิติ \nออกอากาศทุกวันทางช่อง 3 / 33HD เวลา22.30น. \nติดต่อทีมข่าวได้ที่ \nhttps://www.facebook.com/3mitinews/\n",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1120520704021684224/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1119933646095417344",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"content": "ผู้ที่ไม่สมควรกล่าวธรรมของพระตถาคต...",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/1119933646095417344",
"published": "2020-06-17T10:16:27+00:00",
"source": {
"content": "ผู้ที่ไม่สมควรกล่าวธรรมของพระตถาคต...",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1119933646095417344/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1119924612451766272",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"content": "พระไตรปิฎกชุดวิเวกนี้ เป็นเนื้อหาที่พระพุทธองค์ทรงสอนการปฏิบัติธรรมอันนำสู่ มรรค ผล สวรรค์ นิพพาน ซึ่งทรงจำแนกธรรมสั่งสอนบุคคลต่างๆ อย่างเหมาะสมกับบริบทของคนนั้นๆ ด้วยปัญญาอันยิ่งของพระองค์ การปฏิบัติตรงตามพระพุทธเจ้าจึงได้ผลสูงสุด<br /><br />ธรรมะชุดนี้เป็นคู่มือการปฏิบัติธรรมที่ตรงตามคำสอนของพระพุทธองค์อย่างเป็นระบบครบถ้วน ตั้งแต่การละมิจฉาทิฏฐิ สมาทานสัมมาทิฏฐิ การเจริญสติ สมาธิ ปัญญาอย่างถูกต้อง ทั้งปฏิปทาแห่งวิถีชีวิตที่เหมาะสม เพื่อการบรรลุธรรมอย่างถูกตรง แม่นยำ ซึ่งเป็นการปฏิบัติสายกลางที่ปฏิบัติง่าย ได้ผลง่าย<br /><br />พระผู้มีพระภาคตรัสสอนภิกษุทั้งหลายว่า เมื่อภิกษุเมื่ออยู่ในป่าผู้เดียว ควรเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว เพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง เพราะพิจารณาเห็นภัยในอนาคต ๕ ประการ ดังนี้ คือ<br /><br />ภัยข้อที่ ๑ เสียชีวิตเพราะโดนสัตว์ เช่น งู แมลงป่อง หรือตะขาบ กัดต่อย<br /><br />ภัยข้อที่ ๒ เสียชีวิตเพราะพลาดล้มลง ภัตตาหารที่ฉันแล้วไม่ย่อยดี มีเสมหะกำเริบ หรือลมมีพิษกำเริบ<br /><br />ภัยข้อที่ ๓ พบสัตว์ร้าย คือ สีหะ เสือโคร่ง เสือเหลือง หมี หรือเสือดาว และสัตว์เหล่านั้นทำร้ายถึงตาย<br /><br />ภัยข้อที่ ๔ พบคนร้าย ผู้มีกรรมอันทำแล้ว หรือมีกรรมยังไม่ได้ทำ และคนร้ายเหล่านั้นอาจปลงชีวิตถึงตาย<br /><br />ภัยข้อที่ ๕ ในป่าย่อมมีพวกอมนุษย์ดุร้าย อมนุษย์เหล่านั้นอาจปลงชีวิตถึงตาย<br /> ",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/1119924612451766272",
"published": "2020-06-17T09:40:33+00:00",
"source": {
"content": "พระไตรปิฎกชุดวิเวกนี้ เป็นเนื้อหาที่พระพุทธองค์ทรงสอนการปฏิบัติธรรมอันนำสู่ มรรค ผล สวรรค์ นิพพาน ซึ่งทรงจำแนกธรรมสั่งสอนบุคคลต่างๆ อย่างเหมาะสมกับบริบทของคนนั้นๆ ด้วยปัญญาอันยิ่งของพระองค์ การปฏิบัติตรงตามพระพุทธเจ้าจึงได้ผลสูงสุด\n\nธรรมะชุดนี้เป็นคู่มือการปฏิบัติธรรมที่ตรงตามคำสอนของพระพุทธองค์อย่างเป็นระบบครบถ้วน ตั้งแต่การละมิจฉาทิฏฐิ สมาทานสัมมาทิฏฐิ การเจริญสติ สมาธิ ปัญญาอย่างถูกต้อง ทั้งปฏิปทาแห่งวิถีชีวิตที่เหมาะสม เพื่อการบรรลุธรรมอย่างถูกตรง แม่นยำ ซึ่งเป็นการปฏิบัติสายกลางที่ปฏิบัติง่าย ได้ผลง่าย\n\nพระผู้มีพระภาคตรัสสอนภิกษุทั้งหลายว่า เมื่อภิกษุเมื่ออยู่ในป่าผู้เดียว ควรเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว เพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง เพราะพิจารณาเห็นภัยในอนาคต ๕ ประการ ดังนี้ คือ\n\nภัยข้อที่ ๑ เสียชีวิตเพราะโดนสัตว์ เช่น งู แมลงป่อง หรือตะขาบ กัดต่อย\n\nภัยข้อที่ ๒ เสียชีวิตเพราะพลาดล้มลง ภัตตาหารที่ฉันแล้วไม่ย่อยดี มีเสมหะกำเริบ หรือลมมีพิษกำเริบ\n\nภัยข้อที่ ๓ พบสัตว์ร้าย คือ สีหะ เสือโคร่ง เสือเหลือง หมี หรือเสือดาว และสัตว์เหล่านั้นทำร้ายถึงตาย\n\nภัยข้อที่ ๔ พบคนร้าย ผู้มีกรรมอันทำแล้ว หรือมีกรรมยังไม่ได้ทำ และคนร้ายเหล่านั้นอาจปลงชีวิตถึงตาย\n\nภัยข้อที่ ๕ ในป่าย่อมมีพวกอมนุษย์ดุร้าย อมนุษย์เหล่านั้นอาจปลงชีวิตถึงตาย\n ",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1119924612451766272/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1119921838334943232",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"content": "การเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมือง(Political fighting movement)<br /><br />♦การต่อสู้ทางการเมืองในประเทศไทย โดยเฉพาะสู้กับขบวนการเผด็จการแห่งประเทศไทย แพ้ผิดเป็นปุ๋ย และไปเพิ่มความเข้มแข็งให้กับพวกเผด็จการไทย มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย จนบรรดาพวกที่อ้างตัวว่าก้าวหน้ายอมสยบเป็นทาสและลิ่วล้อมามากต่อมากแล้ว มีตัวอย่างให้เห็นกันมากต่อมากที่ผ่านมาในอดีตแค่เผด็จการไทยใช้แค่ความล้าหลังทางการเมือง(วงจรอุบาทว์ทางการเมืองไทย) นิดหน่อยก็ชนะขาดมาตลอด ทำไมไม่ทบทวนกัน...<br /><br />เครดิตภาพ : ถ้าคิดจะต่อสู้ทางการเมืองต้องชนะเท่านั้น อย่าแค่คะแนนเสียง และแค่ความนิยม ฯลฯ ต้องแค่อย่างน้อยต้องรุกทางการเมืองด้วยเรื่องหลักการของความถูกต้อง ฯลฯ ",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/1119921838334943232",
"published": "2020-06-17T09:29:32+00:00",
"source": {
"content": "การเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมือง(Political fighting movement)\n\n♦การต่อสู้ทางการเมืองในประเทศไทย โดยเฉพาะสู้กับขบวนการเผด็จการแห่งประเทศไทย แพ้ผิดเป็นปุ๋ย และไปเพิ่มความเข้มแข็งให้กับพวกเผด็จการไทย มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย จนบรรดาพวกที่อ้างตัวว่าก้าวหน้ายอมสยบเป็นทาสและลิ่วล้อมามากต่อมากแล้ว มีตัวอย่างให้เห็นกันมากต่อมากที่ผ่านมาในอดีตแค่เผด็จการไทยใช้แค่ความล้าหลังทางการเมือง(วงจรอุบาทว์ทางการเมืองไทย) นิดหน่อยก็ชนะขาดมาตลอด ทำไมไม่ทบทวนกัน...\n\nเครดิตภาพ : ถ้าคิดจะต่อสู้ทางการเมืองต้องชนะเท่านั้น อย่าแค่คะแนนเสียง และแค่ความนิยม ฯลฯ ต้องแค่อย่างน้อยต้องรุกทางการเมืองด้วยเรื่องหลักการของความถูกต้อง ฯลฯ ",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1119921838334943232/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1119917134159998976",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"content": "ลูกสาว ขุนวนารักษ์ดำรง เล่าชีวิต ในบ้านโบราณร้อยปี เมืองแพร่ ที่โดนทุบ<br /><br />วันที่ 17 มิ.ย. นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เปิดเผยว่า อาคารศูนย์เรียนรู้การป่าไม้ อาคารเรือนไม้ 2 ชั้น สถาปัตยกรรมแบบอาณานิคมประยุกต์ ริมแม่น้ำยม สร้างตั้งแต่ ปี พ.ศ.2432 ซึ่งมีอายุ 131 ปี ถือเป็นอาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของชาว จ.แพร่ มาหลายชั่วอายุคน แต่ในการปรับปรุงซ่อมแซม กลับเป็นการรื้อทำลาย โดยปราศจากการศึกษา หรือใช้หลักวิชาการในการอนุรักษ์ฟื้นฟูอาคารที่ถูกต้อง และไม่สอดคล้องกับนโยบายในการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าแพร่<br /><br />ภาพประกอบข่าว© Matichon ภาพประกอบข่าว<br />การดำเนินการนี้เป็นโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียนรู้การป่าไม้ สวนรุกขชาติเชตวัน จังหวัดแพร่ ซึ่งสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) เป็นเจ้าของโครงการ ใช้เงินทั้งหมด 4,560,000 บาท เริ่มโครงการวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 และสิ้นสุดวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563<br /><br />อาคารดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับการทำอุตสาหกรรมป่าไม้ ของบริษัทบอมเบย์เบอร์มา เทรดดิ้ง จำกัด จากประเทศอังกฤษ และ บริษัทอีส เอเชียติค จำกัด จากประเทศเดนมาร์ก ได้เข้ามาตั้งสำนักงานที่อยู่อาศัยและใช้เป็นท่าน้ำล่องซุงจากแม่น้ำยมสู่แม่น้ำเจ้าพระยา<br /><br />ต่อมาได้ยกพื้นที่และอาคารให้กรมป่าไม้ ซึ่งได้ใช้เป็นที่ทำการและที่พักของป่าไม้ภาค ปัจจุบันตั้งอยู่ในสวนรุกขชาติเชตะวันในความดูแลของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่)<br /><br />ล่าสุดวันที่ 16 มิ.ย.63 นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด นายวรญาณ บุณราช เป็นประธานกรรมการ<br /><br />นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาคารดังกล่าวเป็นบ้านที่สร้างให้เสริมศรี เอกชัย เติบโตและเข้มแข็ง เป็นนักข่าวนักหนังสือพิมพ์คนสำคัญของไทย ซึ่ง เสริมศรี เอกชัย เจ้าของนามปากกา”สนทะเล” ได้เขียนถึงชีวิตของตนเอง สมัยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ในฐานะลูกสาวของขุนวนารักษ์ดำรง (ทองคำ สุวรรณเกสร์) ป่าไม้ภาค ซึ่งมีบ้านหลังนี้เป็นบ้านประจำตำแหน่ง โดยเขียนว่า<br /><br />“ไม่มีใครรู้ดีกว่าดิฉันเลยว่า ไม่เคยมีความสุขที่ไหน จะเปี่ยมล้นพ้นสมบูรณ์ที่สุด เท่ากับชีวิตของดิฉัน เมื่อพ่อยังมีชีวิตอยู่ เมื่อดิฉันยังเป็นเด็ก<br /><br />เมื่อดิฉันอยู่ที่เมืองแพร่...<br /><br />และเพราะความสมบูรณ์ยิ่งในชีวิตที่เคยได้รับมานี่เอง ที่เป็นกำลังใจให้ดิฉันสามารถยืนหยัดรับการคุกคามของเหตุการณ์ต่างๆมาได้...ผ่านชีวิตมาอย่างคนจองหองคนหนึ่ง ที่ไม่เคยคุกเข่าให้ใคร<br /><br />ดิฉันผ่านชีวิตมาได้โดยไม่ทุกข์ก็เพราะว่า ดิฉันมีความรักเป็นเครื่องทดแทน มีชีวิตที่ผาสุกสมบูรณ์ในวัยเด็ก มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความรักของญาติสนิทมิตรสหาย<br /><br />ดิฉันจึงอยากเหลือเกิน ต้องการเหลือเกิน ที่จะช่วยให้เด็กๆมีความสุขในวัยเด็กของเขา เพราะรู้ดีว่าไม่มีความสุขในวัยไหน จะเท่าเทียมและตรึงตราอยู่ในหัวใจไปชั่วชีวิต เท่ากับความสุขในวัยเด็ก และความรักที่ได้รับเมื่อยังเป็นเด็ก<br /><br />มันคือยาบำรุงหัวใจให้อ่อนโยน ให้เข้มแข็ง ให้มีเมตตาต่อผู้อื่น ที่ขาดแคลนความรักและความสุข ดิฉันคิดว่าที่โลกและสังคม มันวุ่นวายเดือดร้อนอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะคนส่วนใหญ่ขาดความอบอุ่นและความรักในวัยเด็กของเขาเป็นสาเหตุใหญ่ จึงตั้งหน้าที่จะทำร้ายซึ่งกันและกัน ไม่เพียงทำร้ายผู้อื่น แม้แต่พ่อแม่บุพการีของตนก็ยังทำร้ายจิตใจได้ และแม้แต่ลูกในไส้ของตัวเอง ก็ยังทำเสียจนลูกเกลียดได้ !!<br /><br />คนพวกนี้ไม่เคยรู้จักว่า ความสุขที่แท้จริงเป็นอย่างไร เพราะว่าเขาไม่เคยมีความสุขในวัยเด็กอย่างดิฉัน...นี่เป็นความจริงนะคะ”<br /><br />ขอขอบคุณข้อมูล/ภาพ : ข่าวสด",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/1119917134159998976",
"published": "2020-06-17T09:10:50+00:00",
"source": {
"content": "ลูกสาว ขุนวนารักษ์ดำรง เล่าชีวิต ในบ้านโบราณร้อยปี เมืองแพร่ ที่โดนทุบ\n\nวันที่ 17 มิ.ย. นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เปิดเผยว่า อาคารศูนย์เรียนรู้การป่าไม้ อาคารเรือนไม้ 2 ชั้น สถาปัตยกรรมแบบอาณานิคมประยุกต์ ริมแม่น้ำยม สร้างตั้งแต่ ปี พ.ศ.2432 ซึ่งมีอายุ 131 ปี ถือเป็นอาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของชาว จ.แพร่ มาหลายชั่วอายุคน แต่ในการปรับปรุงซ่อมแซม กลับเป็นการรื้อทำลาย โดยปราศจากการศึกษา หรือใช้หลักวิชาการในการอนุรักษ์ฟื้นฟูอาคารที่ถูกต้อง และไม่สอดคล้องกับนโยบายในการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าแพร่\n\nภาพประกอบข่าว© Matichon ภาพประกอบข่าว\nการดำเนินการนี้เป็นโครงการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียนรู้การป่าไม้ สวนรุกขชาติเชตวัน จังหวัดแพร่ ซึ่งสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) เป็นเจ้าของโครงการ ใช้เงินทั้งหมด 4,560,000 บาท เริ่มโครงการวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 และสิ้นสุดวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563\n\nอาคารดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องกับการทำอุตสาหกรรมป่าไม้ ของบริษัทบอมเบย์เบอร์มา เทรดดิ้ง จำกัด จากประเทศอังกฤษ และ บริษัทอีส เอเชียติค จำกัด จากประเทศเดนมาร์ก ได้เข้ามาตั้งสำนักงานที่อยู่อาศัยและใช้เป็นท่าน้ำล่องซุงจากแม่น้ำยมสู่แม่น้ำเจ้าพระยา\n\nต่อมาได้ยกพื้นที่และอาคารให้กรมป่าไม้ ซึ่งได้ใช้เป็นที่ทำการและที่พักของป่าไม้ภาค ปัจจุบันตั้งอยู่ในสวนรุกขชาติเชตะวันในความดูแลของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่)\n\nล่าสุดวันที่ 16 มิ.ย.63 นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด นายวรญาณ บุณราช เป็นประธานกรรมการ\n\nนายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาคารดังกล่าวเป็นบ้านที่สร้างให้เสริมศรี เอกชัย เติบโตและเข้มแข็ง เป็นนักข่าวนักหนังสือพิมพ์คนสำคัญของไทย ซึ่ง เสริมศรี เอกชัย เจ้าของนามปากกา”สนทะเล” ได้เขียนถึงชีวิตของตนเอง สมัยอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ในฐานะลูกสาวของขุนวนารักษ์ดำรง (ทองคำ สุวรรณเกสร์) ป่าไม้ภาค ซึ่งมีบ้านหลังนี้เป็นบ้านประจำตำแหน่ง โดยเขียนว่า\n\n“ไม่มีใครรู้ดีกว่าดิฉันเลยว่า ไม่เคยมีความสุขที่ไหน จะเปี่ยมล้นพ้นสมบูรณ์ที่สุด เท่ากับชีวิตของดิฉัน เมื่อพ่อยังมีชีวิตอยู่ เมื่อดิฉันยังเป็นเด็ก\n\nเมื่อดิฉันอยู่ที่เมืองแพร่...\n\nและเพราะความสมบูรณ์ยิ่งในชีวิตที่เคยได้รับมานี่เอง ที่เป็นกำลังใจให้ดิฉันสามารถยืนหยัดรับการคุกคามของเหตุการณ์ต่างๆมาได้...ผ่านชีวิตมาอย่างคนจองหองคนหนึ่ง ที่ไม่เคยคุกเข่าให้ใคร\n\nดิฉันผ่านชีวิตมาได้โดยไม่ทุกข์ก็เพราะว่า ดิฉันมีความรักเป็นเครื่องทดแทน มีชีวิตที่ผาสุกสมบูรณ์ในวัยเด็ก มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความรักของญาติสนิทมิตรสหาย\n\nดิฉันจึงอยากเหลือเกิน ต้องการเหลือเกิน ที่จะช่วยให้เด็กๆมีความสุขในวัยเด็กของเขา เพราะรู้ดีว่าไม่มีความสุขในวัยไหน จะเท่าเทียมและตรึงตราอยู่ในหัวใจไปชั่วชีวิต เท่ากับความสุขในวัยเด็ก และความรักที่ได้รับเมื่อยังเป็นเด็ก\n\nมันคือยาบำรุงหัวใจให้อ่อนโยน ให้เข้มแข็ง ให้มีเมตตาต่อผู้อื่น ที่ขาดแคลนความรักและความสุข ดิฉันคิดว่าที่โลกและสังคม มันวุ่นวายเดือดร้อนอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะคนส่วนใหญ่ขาดความอบอุ่นและความรักในวัยเด็กของเขาเป็นสาเหตุใหญ่ จึงตั้งหน้าที่จะทำร้ายซึ่งกันและกัน ไม่เพียงทำร้ายผู้อื่น แม้แต่พ่อแม่บุพการีของตนก็ยังทำร้ายจิตใจได้ และแม้แต่ลูกในไส้ของตัวเอง ก็ยังทำเสียจนลูกเกลียดได้ !!\n\nคนพวกนี้ไม่เคยรู้จักว่า ความสุขที่แท้จริงเป็นอย่างไร เพราะว่าเขาไม่เคยมีความสุขในวัยเด็กอย่างดิฉัน...นี่เป็นความจริงนะคะ”\n\nขอขอบคุณข้อมูล/ภาพ : ข่าวสด",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1119917134159998976/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1119872758373347328",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"content": "[วันนี้ในอดีต17 มิถุนายน พ.ศ. 2482 (ค.ศ. 1939) ]<br /><br />♦ ยูจีน เว็ดแมนน์ ฆาตกรสังหาร 5 ศพ เป็นบุคคลสุดท้ายที่ถูกประหารชีวิตด้วยกิโยตินต่อหน้าสาธารณชน ณ เมืองแวร์ซาย<br /><br />ภาพจากเพจ : ส.ผาน้ำย้อย<br /><br /><a href=\"https://www.minds.com/search?f=top&t=all&q=กิโยติน\" title=\"#กิโยติน\" class=\"u-url hashtag\" target=\"_blank\">#กิโยติน</a>",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/1119872758373347328",
"published": "2020-06-17T06:14:30+00:00",
"source": {
"content": "[วันนี้ในอดีต17 มิถุนายน พ.ศ. 2482 (ค.ศ. 1939) ]\n\n♦ ยูจีน เว็ดแมนน์ ฆาตกรสังหาร 5 ศพ เป็นบุคคลสุดท้ายที่ถูกประหารชีวิตด้วยกิโยตินต่อหน้าสาธารณชน ณ เมืองแวร์ซาย\n\nภาพจากเพจ : ส.ผาน้ำย้อย\n\n#กิโยติน",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1119872758373347328/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1118393279768772608",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"content": " Don’t Travel To These Forbidden Places – You Might As Well Leave These Off Your Bucket List<br /><br />As the world gets smaller and more connected, travelling has never been easier! It’s tempting to try and see as much of the world while you can and experience everything you can from walking on the Great Wall of China to petting kangaroos in Australia and everything in between.<br />There are still some places in the world that you can’t visit, and although they might be beautiful there is no point in even trying!<br />So here are some forbidden places in the world to leave off of your bucket list!<br /><br /><a href=\"https://thongkum.blogspot.com/2020/06/dont-travel-to-these-forbidden-places.html\" target=\"_blank\">https://thongkum.blogspot.com/2020/06/dont-travel-to-these-forbidden-places.html</a>",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/1118393279768772608",
"published": "2020-06-13T04:15:36+00:00",
"source": {
"content": " Don’t Travel To These Forbidden Places – You Might As Well Leave These Off Your Bucket List\n\nAs the world gets smaller and more connected, travelling has never been easier! It’s tempting to try and see as much of the world while you can and experience everything you can from walking on the Great Wall of China to petting kangaroos in Australia and everything in between.\nThere are still some places in the world that you can’t visit, and although they might be beautiful there is no point in even trying!\nSo here are some forbidden places in the world to leave off of your bucket list!\n\nhttps://thongkum.blogspot.com/2020/06/dont-travel-to-these-forbidden-places.html",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1118393279768772608/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1117985472094973952",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"content": "ฟรีสปีช VS เฮทสปีช(Free Speech VS Heat Speech)<br /><br />♦คนฝรั่งต่างชาติที่มีความสนิทสนมกันยังคงชวนถกเรื่อง Free Speech / Heat Speech ผ่านสื่อออนไลน์อยู่เรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าไม่อยากคุยนะ แต่มาชวนคุยเรื่อง Human Rights in Thailand ที่นี่ไม่มีเสรีภาพในการพูดเรื่องแบบนี้ ยังมีประเทศใหนในโลกใบนี้อีกใหมที่พูดเรื่องแบบี้แล้วต้องตาย บ้านเมืองเขาในต่างประเทศไปไกลถึงขั้นว่าพูด Free speech / hate speech เหมาะไม่เหมาะยังไงกันแล้ว บ้านเมืองผมยังอยู่ตรงที่พูดแล้วจะตายไหมอยู่เลย และมีคนตาย ถูกอุ้มหายมาแล้ว...<br /><br /><a href=\"https://thongkum.blogspot.com/2020/06/vs.html\" target=\"_blank\">https://thongkum.blogspot.com/2020/06/vs.html</a>",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/1117985472094973952",
"published": "2020-06-12T01:15:07+00:00",
"source": {
"content": "ฟรีสปีช VS เฮทสปีช(Free Speech VS Heat Speech)\n\n♦คนฝรั่งต่างชาติที่มีความสนิทสนมกันยังคงชวนถกเรื่อง Free Speech / Heat Speech ผ่านสื่อออนไลน์อยู่เรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าไม่อยากคุยนะ แต่มาชวนคุยเรื่อง Human Rights in Thailand ที่นี่ไม่มีเสรีภาพในการพูดเรื่องแบบนี้ ยังมีประเทศใหนในโลกใบนี้อีกใหมที่พูดเรื่องแบบี้แล้วต้องตาย บ้านเมืองเขาในต่างประเทศไปไกลถึงขั้นว่าพูด Free speech / hate speech เหมาะไม่เหมาะยังไงกันแล้ว บ้านเมืองผมยังอยู่ตรงที่พูดแล้วจะตายไหมอยู่เลย และมีคนตาย ถูกอุ้มหายมาแล้ว...\n\nhttps://thongkum.blogspot.com/2020/06/vs.html",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1117985472094973952/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1111961364931448832",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"content": "ความยุติธรรมในนิทาน<br /><br />เรื่องมีอยู่ว่ามีกระทาชาย 2 คน เดินทางไปทางเดียวกัน ทั้งสองรู้จักกันในระหว่างเดินทาง ก็ถือเป็นเพื่อนเดินทางไปด้วยกัน ครั้นเดินไปไกล ทั้งสองรู้สึกเหนื่อยจึงนั่งพักที่ใต้ร่มไม้ริมสระแห่งหนึ่งแล้วเปิดห่อ อาหารของตนออก กระทาชายคนหนึ่งมีโรตี 5 แผ่น อีกคนหนึ่งมี 3 แผ่น ทั้งสองเริ่มจะกิน ขณะนั้นมีเศรษฐีคนหนึ่งขี่ม้าเข้ามาใกล้ กระทาชายทั้งสองนั้นจึงทักขึ้นแล้วเชิญให้รับประทานอาหารด้วยกัน เศรษฐีกล่าวขอบใจและบอกว่าตนก็หิวอยู่เหมือนกัน แต่เกรงว่าอาหารของคนทั้งสองนั้นจะไม่พอกิน<br />กระทาชายเดินทางพูดว่า “หามิได้ นาย! อาหารของเรามีพอ เชิญท่านรับประทานกันเราเถิด”<br />เศรษฐีลงจากหลังม้า เข้าร่วมวงรับประทานอาหารกับกระทาชายทั้งสองนั้น<br />ทั้ง 3 คน จึงแบ่งอาหารเท่าๆ กัน แล้วให้เศรษฐีรับประทาน เมื่อเสร็จการรับประทานแล้ว เศรษฐีขึ้นหลังม้าเริ่มจะออกเดินทาง จึงโยนเงินให้ 8 แอนนา แล้วพูดว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกคิดถึงบุญคุณท่านมากที่ท่านได้ให้อาหารข้าพเจ้ารับประทาน ขอท่านได้กรุณารับเงิน 8 แอนนานี้แบ่งกันเถิด”<br />กระทาชายทั้งสองพูดว่า “ข้าพเจ้าเชิญท่านรับประทานเอง มิได้คิดค่าอาหารเป็นสนนราคาอะไร ทำไมท่านจึง [ทำ] อย่างนี้”<br />เศรษฐีทำเป็นไม่ได้ยิน เป็นแต่ร้องสั่งว่า “เก็บเงินไว้เถิด” แล้วขับ [sic] ม้าออกจากที่นั้นไป<br />กระทาชายคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “เอาละพี่ชาย แอนนานี่มี 8 อันเรามาแบ่งกันเถอะ ฉันมีโรตี 5 แผ่น ฉันจะเอา 5 แอนนา พี่มี 3 แผ่น พี่เอา 3 แอนนาก็แล้วกัน”<br />กระทาชายอีกคนค้านว่า “ไม่เอา แบ่งอย่างนี้ไม่ถูก เราทั้งสองต้องแบ่งให้เท่ากัน เธอเอา 4 แอนนา ฉันเอา 4 แอนนา อย่างนี้มันจะยุติธรรม”<br />กระทาชายคนแรกไม่ยอม คนที่สองก็จะเอา 4 แอนนา ให้ได้ ทั้งสองก็ได้เถียงกันไม่ตกลงกัน ข้างหนึ่งก็จะเอา 5 แอนนา ให้เพื่อนเดินทาง 3 แอนนา ตามจำนวนโรตีเท่าที่มีอยู่ อีกฝ่ายหนึ่งก็จะให้แบ่งเท่าๆ กัน คนละ 4 แอนนา เพราะคิดว่าได้ 3 แอนนาน้อยไป ผู้ที่จะเอา 5 แอนนาก็รู้มากเกินไป เมื่อโต้เถียงกันไม่ตกลงจึงปรึกษากันว่า ถ้ากระนั้นเราไปให้ผู้พิพากษาตัดสินเถิด จะได้รู้ว่าใครได้เท่าไร<br />ทั้งสองไปหาผู้พิพากษา บอกให้ผู้พิพากษาทราบธุรกิจที่ตนมา ผู้พิพากษาจึงไต่ถามทราบเรื่องชัดเจนแล้ว จึงถามว่า “พี่ชายมีโรตี 3 อันมิใช่หรือ เขาแบ่งแอนนาให้ 3 แอนนาก็ดีแล้วนี่ ทำไมพี่ชายจึงไม่รับส่วนแบ่งล่ะ”<br />กระทาชายผู้นั้นตอบว่า “มิได้นาย ฉันต้องการให้แบ่งเท่ากันคนละครึ่งจึงจะยุติธรรม ท่านโปรดพิจารณาตัดสินให้ฉันด้วย”<br />ผู้ พิพากษาพูดว่า “ดีล่ะ ฉันจะตัดสินให้ แต่ท่านต้องไม่โกรธเคืองอีกคนหนึ่งนะ” แล้วผู้พิพากษาก็สั่งให้กระทาชายที่มีโรตี 5 แผ่น ได้แอนนา 7 แอนนา ให้ผู้ที่มีโรตี 3 แผ่น ได้แอนนา 1 อันเท่านั้น<br />กระทาชายที่ถูกตัดสินให้ได้แอนนา 1 อัน เมื่อได้ยินคำตัดสินของผู้พิพากษาเช่นนั้นก็ทำท่าจะร้องไห้ คิดว่า เอนี่ผู้พิพากษาอะไรกัน ทีแรกเราจะได้ 3 แอนนา เราขอให้เป็น 4 แอนนา แต่แล้วไหงให้เราได้แอนนาเดียวเท่านั้น ผู้พิพากษาอะไรอย่างนี้ อดรนทนไม่ได้ จึงถามขึ้นว่า “ทำไมจะเป็นอย่างนี้ล่ะนาย”<br />ผู้พิพากษาจึงพูดว่า “เธอคงคิดว่าฉันตัดสินไม่ถูกซินะ เอาละฟังฉันว่า ฉันตัดสินถูกหรือไม่ถูก ให้มันรู้ไปซิไหน โรตีทั้งหมดมีกี่แผ่น?”<br />“แปดแผ่น”<br />“คนกิน กี่คน?”<br />“สามคน”<br />“แต่ละคนกินเท่าๆ กันหรือ?”<br />“จ๊ะ เท่าๆ กัน เราแบ่งเท่าๆ กัน”<br />“โรตีแผ่นหนึ่งๆ แบ่งออกกี่ชิ้น?”<br />“แผ่นละสามชิ้น”<br />“ทั้งหมดรวมเป็นกี่ชิ้น?”<br />“ยี่สิบสี่ชิ้น”<br />“เอาละ บอกทีหรือว่าคนหนึ่งๆ กินโรตี กี่ชิ้น?”<br />“คนละ แปดชิ้น”<br />“เธอล่ะกินกี่ชิ้น?”<br />“ฉันก็กินแปดชิ้นน่ะซิ”<br />“แขกที่มา กินโรตีของท่านกี่ชิ้น?”<br />“ชิ้นเดียว”<br />“แล้วแขกที่มา เขากินโรตีของอีกคนหนึ่งกี่ชิ้น?”<br />“เจ็ดชิ้น”<br />“ถ้าเช่นนั้น เธอบอกมาทีหรือว่า เธอควรจะได้ส่วนแบ่งกี่แอนนา และอีกคนหนึ่งเขาควรจะให้กี่แอนนา?”<br />นิทานข้างต้นมีข้อที่น่าพิเคราะห์หลายประการ แต่ “ไพร่แขนขาว” ขอกล่าวถึงบางแง่มุมเท่านั้น<br />1. เพื่อให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น ขอแสดงแบบจำลองการแบ่งโรตีและเงินตอบแทน ดังปรากฏข้างล่างนี้ แต่โปรดพิเคราะห์และตีความกันเองตามอัธยาศัย<br />Image<br />A = ผู้มีโรตี 3 แผ่น ซึ่งกินโรตีของตัวเองไปถึง 7 ชิ้นเล็ก แต่แบ่งให้เศรษฐีกินเพียง 1 ชิ้นเล็ก<br />B = ผู้มีโรตี 5 แผ่น ซึ่งกินโรตีของตัวเองไป 8 ชิ้นเล็ก โดยแบ่งให้เศรษฐีกินถึง 7 ชิ้นเล็ก<br />C = เศรษฐี ซึ่งกินโรตีของ A ไปเพียง 1 ชิ้นเล็กแผ่น แล้วกินโรตีของ B ไปถึง 7 ชิ้นเล็ก<br /><br />2. ผลประโยชน์นั้นทำให้คนทะเลาะกัน ทั้ง ๆ ที่ตามเนื้อเรื่องแล้ว กระทาชายทั้งสองมิได้ประสงค์จะรับเงินตอบแทนจากเศรษฐีแต่อย่างใด แถมยังตัดพ้อเศรษฐีว่า ทำไมต้องให้เงินตอบแทนด้วยเล่า หากเศรษฐีไม่ให้เงินมา ปัญหาคงไม่เกิดปัญหาขึ้น แต่ทั้งสองรับเงินแล้วก็จำเป็นต้องแบ่งกันอย่างเป็นธรรม รู้ ๆ กันอยู่ว่าผลประโยชน์นั้นไม่เข้าใครออกใคร ขนาดพ่อแม่ญาติพี่น้องกันยังทะเลาะกันได้เพราะเงินตัวเดียว นับประสาอะไรกับเพื่อนเดินทางที่เพิ่งรู้จักกันล่ะ<br />3. การแบ่งส่วนดังกล่าวมีเกณฑ์ในการแบ่งอยู่ 2 เกณฑ์ที่ขัดกัน คือ เกณฑ์แรก เป็นเกณฑ์ที่ตรงกับความรู้สึกของคนทั่วไปหรือสามัญสำนึก ที่จะแบ่งเงินตอบแทน (ผลกำไร) เป็น 5 ต่อ 3 ตามสัดส่วนของโรตี (ทุนที่ลง) เกณฑ์นี้มักจะใช้ในการร่วมกันทำธุรกิจ เมื่อคนหนึ่งลงทุน 5 ส่วน อีกคนลงทุน 3 ส่วน ผลกำไรย่อมต้องแบ่งตามสัดส่วน 5:3 ”ไพร่แขนขาว” ขอเรียกการแบ่งตามเกณฑ์นี้ว่าเป็น “ความยุติธรรมแบบหุ้นส่วน” เกณฑ์ที่สอง “ไพร่แขนขาว” ขอเรียกว่าเป็น “ความยุติธรรมแบบสัดส่วน”จะใช้ในกรณีที่ผู้เกี่ยวข้องมิได้เป็นหุ้นส่วนกัน โดยดูว่าผู้นั้นเสียสัดส่วนของตน (เสียหาย) ไปเท่าใด ก็ย่อมจะได้รับการตอบแทน (ชดเชย) ตามส่วนนั้น เมื่อคนหนึ่งเสียส่วนของตนไป 7 ส่วน และอีกคนหนึ่งเสียไป 1 ส่วน การได้รับค่าตอบแทนจึงต้องเป็นไปตามสัดส่วน 7:1 โดยปกติแล้ว เกณฑ์ที่สองนี้มักจะใช้ในกรณีการเฉลี่ยความเสียหายระหว่างกัน หรือการขายสินค้าเฉพาะส่วนของแต่ละคน มิได้มีการร่วมกันลงทุนแต่อย่างใด ซึ่งนับว่าเข้ากับความยุติธรรมตามนิทานข้างต้นนี้พอดี<br />4. “ไพร่แขนขาว” เคยทดลองเล่านิทานดังกล่าวให้แก่ผู้ฟังนับถึงปัจจุบันน่าจะรวมพันคนได้ (ต่างเวลาและสถานที่กัน ทั้งนี้เป็นผู้ฟังที่มีการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก) โดยอุบเหตุผลของผู้พิพากษาไว้ก่อน แล้วหยั่งเสียงดู ปรากฏว่าเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าการแบ่งตามสัดส่วน 5:3 ถูกต้อง เสียงข้างน้อยเห็น 4:4 ถูกต้อง มีเพียง 2–3 ท่านเท่านั้นที่เห็นว่าควรเป็น 7:1 แต่ให้เหตุผลเชิงศีลธรรมคือเพื่อเป็นการลงโทษแก่ผู้ละโมบโลภมาก<br />5. เมื่อ “ไพร่แขนขาว” เฉลยคำตอบ ผู้ฟังเกือบทั้งหมดก็ยอมจำนนต่อเหตุผลของผู้พิพากษา มีเพียงผู้กล้าหาญท่านหนึ่งที่แสดงความเห็นแย้ง โดยให้เหตุผลพ้องกับแนวคิดของความยุติธรรมแบบหุ้นส่วน ทั้ง ๆ ที่ในขณะนั้น “ไพร่แขนขาว” ยังมิได้กล่าวถึงเรื่องความยุติธรรมแต่อย่างใด ก็ต้องขอให้กำลังใจและชื่นชมผู้ที่แสดงความเห็นนั้น แม้จะมิได้เห็นตรงกันก็ตาม<br />6. “ไพร่แขนขาว” สรุปเอาเองว่า คนโดยทั่วไปมักจะตกอยู่ภายใต้กรอบวิธีคิดแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม แต่เวลาขอให้แสดงเหตุผล ก็อึกอัก อ้ำอึ้ง ติดอยู่ในลำคอ (จริง ๆ แล้วอาจจะให้เหตุผลได้อย่างคล่องปากก็ได้ เพียงแต่โชคร้ายที่เกิดมาในวัฒนธรรมที่มีกลวิธีอันแยบคายในการสกัดกั้นการ แสดงความคิดเห็น) อย่างไรก็ดี “ไพร่แขนขาว” สังเกตเห็นว่า ผู้สนับสนุนสัดส่วน 5:3 จำนวนไม่น้อยก็ยังไม่แน่ใจในคำตอบของตนว่าถูกต้อง อาจเป็นเพราะในใจคงคิดว่าไม่เป็นธรรมนั่นเอง แต่ไม่รู้จะเอาวิธีคิดแบบใดมาแทนวิธีคิดแบบเดิมของตน<br />7. ในนิทานดังกล่าว ผู้พิพากษาเริ่มต้นด้วยการบ่ายเบี่ยงที่จะตัดสิน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือผู้พิพากษากำลังปฏิเสธที่จะใช้เกณฑ์ความยุติธรรมแบบ สัดส่วน (7:1) ตั้งแต่ต้นนั่นเอง โดยยอมรับให้ผู้เกี่ยวข้องใช้เกณฑ์ความยุติธรรมแบบหุ้นส่วน (5:3) ได้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผู้พิพากษาเห็นว่าการแบ่ง 5:3 เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับความรู้สึกของคนทั่วไปในสังคมก็เป็นได้ (ดังที่ “ไพร่แขนขาว” ได้ลองหยั่งเสียงด้วยตนเองมาแล้ว) แต่เมื่อคู่พิพาทยืนกรานให้ตัดสินแล้ว ผู้พิพากษาผู้เที่ยงธรรมก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้เกณฑ์ความยุติธรรมแบบสัด ส่วน (7:1) แม้จะต้องฝืนกับความรู้สึกของสังคมก็ตาม แล้วก็ได้แสดงเหตุผลอย่างสิ้นข้อสงสัย เมื่อเป็นเช่นนี้จุดเน้นของเรื่องจึงมิได้อยู่ที่ผลแห่งคำตัดสิน แต่อยู่ที่การให้เหตุผลเป็นสำคัญ ดังที่ทราบกันดีในหมู่นักนิติศาสตร์ว่า โดยเนื้อแท้แล้ววิชานิติศาสตร์เป็นวิชาว่าด้วยการให้เหตุผล มิใช่วิชาว่าด้วยการเล่นถ้อยคำดังที่นักกฎหมายจำนวนมากถือเป็นวัตรปฏิบัติ กันจนมีผู้ปรามาศว่าเป็นนักนิติอักษรศาสตร์<br />8. บางท่านอาจคิดว่า ถึงผู้พิพากษาจะตัดสิน 5:3 หรือ 7:1 ผู้คนในสังคมก็ต้องยอมรับอยู่ดี เพราะคำพิพากษาต้องถือเป็นที่สุด โดยไม่ต้องวิพากษ์วิจารณ์ ก็ตัดสินไปแล้วจะเอาอะไรกันอีก บางท่านก็ชอบใช้จินตนาการมากกว่าจะฟังเหตุผลของเรื่อง พอได้ยินผลของคำวินิจฉัยไม่ว่าเรื่องใด ถ้าตรงกับจริตของตน ก็จะรีบกล่าวยกย่องสรรเสริญ โดยปราศจากการพินิจพิเคราะห์ถึงความมีเหตุผลของคำพิพากษาเลย บางท่านก็มักจะอ้าง “อำนาจ” ของคำพิพากษามาปิดปากผู้คน บังคับให้ผู้คนต้องเคารพในอำนาจนั้น เชื่อในอำนาจนั้น ผู้ใดวิพากษ์วิจารณ์แม้จะกระทำอย่างมีเหตุมีผลก็ตาม อาจถูกมองจากคนบ้าอำนาจเหล่านี้ว่า เป็นผู้ละเมิดอำนาจแห่งคำพิพากษา ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้วิจารณ์กำลังทำหน้าที่ช่วยกันจรรโลงสถาบันตุลาการมิให้ละทิ้งอุดมการณ์ ของการมีอยู่ของตนเอง<br />9. นิทานเรื่องนี้ได้เตือนสติให้ “ไพร่แขนขาว” ตระหนักว่าอำนาจที่แท้จริงแห่งคำพิพากษานั้นอยู่ที่ “ความมีเหตุผล” ความมีเหตุผลแห่งคำพิพากษาเท่านั้นที่ทำให้สังคมรับรู้ถึงความยุติธรรม และเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งต่อความน่าเชื่อถือของสถาบันตุลาการ แม้แต่ฝ่ายผู้ต้องเสียประโยชน์จากผลของคำพิพากษาเมื่อได้ยินเหตุผลที่ชอบ ธรรมแล้ว อย่างน้อยก็ยังสบายใจขึ้นว่าที่ตนแพ้นั้น ด้วยเหตุผลอันยุติธรรมแท้จริง สมศักดิ์ศรีแห่งความพ่ายแพ้<br />10. ถ้าเราเชื่อในอำนาจแห่งความมีเหตุผลของคำพิพากษาแล้ว อุดมการณ์สูงสุดของผู้พิพากษาจึงไม่มีอะไรสูงส่งไปกว่า “เหตุผล เหตุผล และเหตุผล” คำวินิจฉัยที่ปราจากเหตุผล หรืออ่อนด้อยด้วยเหตุผล หรือจงใจละเลยไม่ใช้เหตุผลในการหักล้างประเด็นแห่งคดี หรือทำเนียนประหนึ่งว่าประเด็นนั้นไม่สำคัญจึงไม่ต้องหาเหตุผลมาหักล้าง หาได้มีคุณค่าใดๆ ต่อสังคมไม่ และยังเป็นตัวทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันตุลาการในที่สุด<br />11. สิ่งที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งที่จะทำให้คำพิพากษาคงอยู่ในร่องในรอยของความ มีเหตุผลได้นั้น คือ การวิพากษ์วิจารณ์ตรวจสอบคำพิพากษาโดยสาธารณชนนั่นเอง<br />ที่บ่นมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องในนิทานเท่านั้น<br /><br />เครดิต : ไพร่แขนชวา<br />",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/1111961364931448832",
"published": "2020-05-26T10:17:27+00:00",
"source": {
"content": "ความยุติธรรมในนิทาน\n\nเรื่องมีอยู่ว่ามีกระทาชาย 2 คน เดินทางไปทางเดียวกัน ทั้งสองรู้จักกันในระหว่างเดินทาง ก็ถือเป็นเพื่อนเดินทางไปด้วยกัน ครั้นเดินไปไกล ทั้งสองรู้สึกเหนื่อยจึงนั่งพักที่ใต้ร่มไม้ริมสระแห่งหนึ่งแล้วเปิดห่อ อาหารของตนออก กระทาชายคนหนึ่งมีโรตี 5 แผ่น อีกคนหนึ่งมี 3 แผ่น ทั้งสองเริ่มจะกิน ขณะนั้นมีเศรษฐีคนหนึ่งขี่ม้าเข้ามาใกล้ กระทาชายทั้งสองนั้นจึงทักขึ้นแล้วเชิญให้รับประทานอาหารด้วยกัน เศรษฐีกล่าวขอบใจและบอกว่าตนก็หิวอยู่เหมือนกัน แต่เกรงว่าอาหารของคนทั้งสองนั้นจะไม่พอกิน\nกระทาชายเดินทางพูดว่า “หามิได้ นาย! อาหารของเรามีพอ เชิญท่านรับประทานกันเราเถิด”\nเศรษฐีลงจากหลังม้า เข้าร่วมวงรับประทานอาหารกับกระทาชายทั้งสองนั้น\nทั้ง 3 คน จึงแบ่งอาหารเท่าๆ กัน แล้วให้เศรษฐีรับประทาน เมื่อเสร็จการรับประทานแล้ว เศรษฐีขึ้นหลังม้าเริ่มจะออกเดินทาง จึงโยนเงินให้ 8 แอนนา แล้วพูดว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกคิดถึงบุญคุณท่านมากที่ท่านได้ให้อาหารข้าพเจ้ารับประทาน ขอท่านได้กรุณารับเงิน 8 แอนนานี้แบ่งกันเถิด”\nกระทาชายทั้งสองพูดว่า “ข้าพเจ้าเชิญท่านรับประทานเอง มิได้คิดค่าอาหารเป็นสนนราคาอะไร ทำไมท่านจึง [ทำ] อย่างนี้”\nเศรษฐีทำเป็นไม่ได้ยิน เป็นแต่ร้องสั่งว่า “เก็บเงินไว้เถิด” แล้วขับ [sic] ม้าออกจากที่นั้นไป\nกระทาชายคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “เอาละพี่ชาย แอนนานี่มี 8 อันเรามาแบ่งกันเถอะ ฉันมีโรตี 5 แผ่น ฉันจะเอา 5 แอนนา พี่มี 3 แผ่น พี่เอา 3 แอนนาก็แล้วกัน”\nกระทาชายอีกคนค้านว่า “ไม่เอา แบ่งอย่างนี้ไม่ถูก เราทั้งสองต้องแบ่งให้เท่ากัน เธอเอา 4 แอนนา ฉันเอา 4 แอนนา อย่างนี้มันจะยุติธรรม”\nกระทาชายคนแรกไม่ยอม คนที่สองก็จะเอา 4 แอนนา ให้ได้ ทั้งสองก็ได้เถียงกันไม่ตกลงกัน ข้างหนึ่งก็จะเอา 5 แอนนา ให้เพื่อนเดินทาง 3 แอนนา ตามจำนวนโรตีเท่าที่มีอยู่ อีกฝ่ายหนึ่งก็จะให้แบ่งเท่าๆ กัน คนละ 4 แอนนา เพราะคิดว่าได้ 3 แอนนาน้อยไป ผู้ที่จะเอา 5 แอนนาก็รู้มากเกินไป เมื่อโต้เถียงกันไม่ตกลงจึงปรึกษากันว่า ถ้ากระนั้นเราไปให้ผู้พิพากษาตัดสินเถิด จะได้รู้ว่าใครได้เท่าไร\nทั้งสองไปหาผู้พิพากษา บอกให้ผู้พิพากษาทราบธุรกิจที่ตนมา ผู้พิพากษาจึงไต่ถามทราบเรื่องชัดเจนแล้ว จึงถามว่า “พี่ชายมีโรตี 3 อันมิใช่หรือ เขาแบ่งแอนนาให้ 3 แอนนาก็ดีแล้วนี่ ทำไมพี่ชายจึงไม่รับส่วนแบ่งล่ะ”\nกระทาชายผู้นั้นตอบว่า “มิได้นาย ฉันต้องการให้แบ่งเท่ากันคนละครึ่งจึงจะยุติธรรม ท่านโปรดพิจารณาตัดสินให้ฉันด้วย”\nผู้ พิพากษาพูดว่า “ดีล่ะ ฉันจะตัดสินให้ แต่ท่านต้องไม่โกรธเคืองอีกคนหนึ่งนะ” แล้วผู้พิพากษาก็สั่งให้กระทาชายที่มีโรตี 5 แผ่น ได้แอนนา 7 แอนนา ให้ผู้ที่มีโรตี 3 แผ่น ได้แอนนา 1 อันเท่านั้น\nกระทาชายที่ถูกตัดสินให้ได้แอนนา 1 อัน เมื่อได้ยินคำตัดสินของผู้พิพากษาเช่นนั้นก็ทำท่าจะร้องไห้ คิดว่า เอนี่ผู้พิพากษาอะไรกัน ทีแรกเราจะได้ 3 แอนนา เราขอให้เป็น 4 แอนนา แต่แล้วไหงให้เราได้แอนนาเดียวเท่านั้น ผู้พิพากษาอะไรอย่างนี้ อดรนทนไม่ได้ จึงถามขึ้นว่า “ทำไมจะเป็นอย่างนี้ล่ะนาย”\nผู้พิพากษาจึงพูดว่า “เธอคงคิดว่าฉันตัดสินไม่ถูกซินะ เอาละฟังฉันว่า ฉันตัดสินถูกหรือไม่ถูก ให้มันรู้ไปซิไหน โรตีทั้งหมดมีกี่แผ่น?”\n“แปดแผ่น”\n“คนกิน กี่คน?”\n“สามคน”\n“แต่ละคนกินเท่าๆ กันหรือ?”\n“จ๊ะ เท่าๆ กัน เราแบ่งเท่าๆ กัน”\n“โรตีแผ่นหนึ่งๆ แบ่งออกกี่ชิ้น?”\n“แผ่นละสามชิ้น”\n“ทั้งหมดรวมเป็นกี่ชิ้น?”\n“ยี่สิบสี่ชิ้น”\n“เอาละ บอกทีหรือว่าคนหนึ่งๆ กินโรตี กี่ชิ้น?”\n“คนละ แปดชิ้น”\n“เธอล่ะกินกี่ชิ้น?”\n“ฉันก็กินแปดชิ้นน่ะซิ”\n“แขกที่มา กินโรตีของท่านกี่ชิ้น?”\n“ชิ้นเดียว”\n“แล้วแขกที่มา เขากินโรตีของอีกคนหนึ่งกี่ชิ้น?”\n“เจ็ดชิ้น”\n“ถ้าเช่นนั้น เธอบอกมาทีหรือว่า เธอควรจะได้ส่วนแบ่งกี่แอนนา และอีกคนหนึ่งเขาควรจะให้กี่แอนนา?”\nนิทานข้างต้นมีข้อที่น่าพิเคราะห์หลายประการ แต่ “ไพร่แขนขาว” ขอกล่าวถึงบางแง่มุมเท่านั้น\n1. เพื่อให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้น ขอแสดงแบบจำลองการแบ่งโรตีและเงินตอบแทน ดังปรากฏข้างล่างนี้ แต่โปรดพิเคราะห์และตีความกันเองตามอัธยาศัย\nImage\nA = ผู้มีโรตี 3 แผ่น ซึ่งกินโรตีของตัวเองไปถึง 7 ชิ้นเล็ก แต่แบ่งให้เศรษฐีกินเพียง 1 ชิ้นเล็ก\nB = ผู้มีโรตี 5 แผ่น ซึ่งกินโรตีของตัวเองไป 8 ชิ้นเล็ก โดยแบ่งให้เศรษฐีกินถึง 7 ชิ้นเล็ก\nC = เศรษฐี ซึ่งกินโรตีของ A ไปเพียง 1 ชิ้นเล็กแผ่น แล้วกินโรตีของ B ไปถึง 7 ชิ้นเล็ก\n\n2. ผลประโยชน์นั้นทำให้คนทะเลาะกัน ทั้ง ๆ ที่ตามเนื้อเรื่องแล้ว กระทาชายทั้งสองมิได้ประสงค์จะรับเงินตอบแทนจากเศรษฐีแต่อย่างใด แถมยังตัดพ้อเศรษฐีว่า ทำไมต้องให้เงินตอบแทนด้วยเล่า หากเศรษฐีไม่ให้เงินมา ปัญหาคงไม่เกิดปัญหาขึ้น แต่ทั้งสองรับเงินแล้วก็จำเป็นต้องแบ่งกันอย่างเป็นธรรม รู้ ๆ กันอยู่ว่าผลประโยชน์นั้นไม่เข้าใครออกใคร ขนาดพ่อแม่ญาติพี่น้องกันยังทะเลาะกันได้เพราะเงินตัวเดียว นับประสาอะไรกับเพื่อนเดินทางที่เพิ่งรู้จักกันล่ะ\n3. การแบ่งส่วนดังกล่าวมีเกณฑ์ในการแบ่งอยู่ 2 เกณฑ์ที่ขัดกัน คือ เกณฑ์แรก เป็นเกณฑ์ที่ตรงกับความรู้สึกของคนทั่วไปหรือสามัญสำนึก ที่จะแบ่งเงินตอบแทน (ผลกำไร) เป็น 5 ต่อ 3 ตามสัดส่วนของโรตี (ทุนที่ลง) เกณฑ์นี้มักจะใช้ในการร่วมกันทำธุรกิจ เมื่อคนหนึ่งลงทุน 5 ส่วน อีกคนลงทุน 3 ส่วน ผลกำไรย่อมต้องแบ่งตามสัดส่วน 5:3 ”ไพร่แขนขาว” ขอเรียกการแบ่งตามเกณฑ์นี้ว่าเป็น “ความยุติธรรมแบบหุ้นส่วน” เกณฑ์ที่สอง “ไพร่แขนขาว” ขอเรียกว่าเป็น “ความยุติธรรมแบบสัดส่วน”จะใช้ในกรณีที่ผู้เกี่ยวข้องมิได้เป็นหุ้นส่วนกัน โดยดูว่าผู้นั้นเสียสัดส่วนของตน (เสียหาย) ไปเท่าใด ก็ย่อมจะได้รับการตอบแทน (ชดเชย) ตามส่วนนั้น เมื่อคนหนึ่งเสียส่วนของตนไป 7 ส่วน และอีกคนหนึ่งเสียไป 1 ส่วน การได้รับค่าตอบแทนจึงต้องเป็นไปตามสัดส่วน 7:1 โดยปกติแล้ว เกณฑ์ที่สองนี้มักจะใช้ในกรณีการเฉลี่ยความเสียหายระหว่างกัน หรือการขายสินค้าเฉพาะส่วนของแต่ละคน มิได้มีการร่วมกันลงทุนแต่อย่างใด ซึ่งนับว่าเข้ากับความยุติธรรมตามนิทานข้างต้นนี้พอดี\n4. “ไพร่แขนขาว” เคยทดลองเล่านิทานดังกล่าวให้แก่ผู้ฟังนับถึงปัจจุบันน่าจะรวมพันคนได้ (ต่างเวลาและสถานที่กัน ทั้งนี้เป็นผู้ฟังที่มีการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอก) โดยอุบเหตุผลของผู้พิพากษาไว้ก่อน แล้วหยั่งเสียงดู ปรากฏว่าเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าการแบ่งตามสัดส่วน 5:3 ถูกต้อง เสียงข้างน้อยเห็น 4:4 ถูกต้อง มีเพียง 2–3 ท่านเท่านั้นที่เห็นว่าควรเป็น 7:1 แต่ให้เหตุผลเชิงศีลธรรมคือเพื่อเป็นการลงโทษแก่ผู้ละโมบโลภมาก\n5. เมื่อ “ไพร่แขนขาว” เฉลยคำตอบ ผู้ฟังเกือบทั้งหมดก็ยอมจำนนต่อเหตุผลของผู้พิพากษา มีเพียงผู้กล้าหาญท่านหนึ่งที่แสดงความเห็นแย้ง โดยให้เหตุผลพ้องกับแนวคิดของความยุติธรรมแบบหุ้นส่วน ทั้ง ๆ ที่ในขณะนั้น “ไพร่แขนขาว” ยังมิได้กล่าวถึงเรื่องความยุติธรรมแต่อย่างใด ก็ต้องขอให้กำลังใจและชื่นชมผู้ที่แสดงความเห็นนั้น แม้จะมิได้เห็นตรงกันก็ตาม\n6. “ไพร่แขนขาว” สรุปเอาเองว่า คนโดยทั่วไปมักจะตกอยู่ภายใต้กรอบวิธีคิดแบบหนึ่ง ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม แต่เวลาขอให้แสดงเหตุผล ก็อึกอัก อ้ำอึ้ง ติดอยู่ในลำคอ (จริง ๆ แล้วอาจจะให้เหตุผลได้อย่างคล่องปากก็ได้ เพียงแต่โชคร้ายที่เกิดมาในวัฒนธรรมที่มีกลวิธีอันแยบคายในการสกัดกั้นการ แสดงความคิดเห็น) อย่างไรก็ดี “ไพร่แขนขาว” สังเกตเห็นว่า ผู้สนับสนุนสัดส่วน 5:3 จำนวนไม่น้อยก็ยังไม่แน่ใจในคำตอบของตนว่าถูกต้อง อาจเป็นเพราะในใจคงคิดว่าไม่เป็นธรรมนั่นเอง แต่ไม่รู้จะเอาวิธีคิดแบบใดมาแทนวิธีคิดแบบเดิมของตน\n7. ในนิทานดังกล่าว ผู้พิพากษาเริ่มต้นด้วยการบ่ายเบี่ยงที่จะตัดสิน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือผู้พิพากษากำลังปฏิเสธที่จะใช้เกณฑ์ความยุติธรรมแบบ สัดส่วน (7:1) ตั้งแต่ต้นนั่นเอง โดยยอมรับให้ผู้เกี่ยวข้องใช้เกณฑ์ความยุติธรรมแบบหุ้นส่วน (5:3) ได้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผู้พิพากษาเห็นว่าการแบ่ง 5:3 เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับความรู้สึกของคนทั่วไปในสังคมก็เป็นได้ (ดังที่ “ไพร่แขนขาว” ได้ลองหยั่งเสียงด้วยตนเองมาแล้ว) แต่เมื่อคู่พิพาทยืนกรานให้ตัดสินแล้ว ผู้พิพากษาผู้เที่ยงธรรมก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้เกณฑ์ความยุติธรรมแบบสัด ส่วน (7:1) แม้จะต้องฝืนกับความรู้สึกของสังคมก็ตาม แล้วก็ได้แสดงเหตุผลอย่างสิ้นข้อสงสัย เมื่อเป็นเช่นนี้จุดเน้นของเรื่องจึงมิได้อยู่ที่ผลแห่งคำตัดสิน แต่อยู่ที่การให้เหตุผลเป็นสำคัญ ดังที่ทราบกันดีในหมู่นักนิติศาสตร์ว่า โดยเนื้อแท้แล้ววิชานิติศาสตร์เป็นวิชาว่าด้วยการให้เหตุผล มิใช่วิชาว่าด้วยการเล่นถ้อยคำดังที่นักกฎหมายจำนวนมากถือเป็นวัตรปฏิบัติ กันจนมีผู้ปรามาศว่าเป็นนักนิติอักษรศาสตร์\n8. บางท่านอาจคิดว่า ถึงผู้พิพากษาจะตัดสิน 5:3 หรือ 7:1 ผู้คนในสังคมก็ต้องยอมรับอยู่ดี เพราะคำพิพากษาต้องถือเป็นที่สุด โดยไม่ต้องวิพากษ์วิจารณ์ ก็ตัดสินไปแล้วจะเอาอะไรกันอีก บางท่านก็ชอบใช้จินตนาการมากกว่าจะฟังเหตุผลของเรื่อง พอได้ยินผลของคำวินิจฉัยไม่ว่าเรื่องใด ถ้าตรงกับจริตของตน ก็จะรีบกล่าวยกย่องสรรเสริญ โดยปราศจากการพินิจพิเคราะห์ถึงความมีเหตุผลของคำพิพากษาเลย บางท่านก็มักจะอ้าง “อำนาจ” ของคำพิพากษามาปิดปากผู้คน บังคับให้ผู้คนต้องเคารพในอำนาจนั้น เชื่อในอำนาจนั้น ผู้ใดวิพากษ์วิจารณ์แม้จะกระทำอย่างมีเหตุมีผลก็ตาม อาจถูกมองจากคนบ้าอำนาจเหล่านี้ว่า เป็นผู้ละเมิดอำนาจแห่งคำพิพากษา ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้วิจารณ์กำลังทำหน้าที่ช่วยกันจรรโลงสถาบันตุลาการมิให้ละทิ้งอุดมการณ์ ของการมีอยู่ของตนเอง\n9. นิทานเรื่องนี้ได้เตือนสติให้ “ไพร่แขนขาว” ตระหนักว่าอำนาจที่แท้จริงแห่งคำพิพากษานั้นอยู่ที่ “ความมีเหตุผล” ความมีเหตุผลแห่งคำพิพากษาเท่านั้นที่ทำให้สังคมรับรู้ถึงความยุติธรรม และเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งต่อความน่าเชื่อถือของสถาบันตุลาการ แม้แต่ฝ่ายผู้ต้องเสียประโยชน์จากผลของคำพิพากษาเมื่อได้ยินเหตุผลที่ชอบ ธรรมแล้ว อย่างน้อยก็ยังสบายใจขึ้นว่าที่ตนแพ้นั้น ด้วยเหตุผลอันยุติธรรมแท้จริง สมศักดิ์ศรีแห่งความพ่ายแพ้\n10. ถ้าเราเชื่อในอำนาจแห่งความมีเหตุผลของคำพิพากษาแล้ว อุดมการณ์สูงสุดของผู้พิพากษาจึงไม่มีอะไรสูงส่งไปกว่า “เหตุผล เหตุผล และเหตุผล” คำวินิจฉัยที่ปราจากเหตุผล หรืออ่อนด้อยด้วยเหตุผล หรือจงใจละเลยไม่ใช้เหตุผลในการหักล้างประเด็นแห่งคดี หรือทำเนียนประหนึ่งว่าประเด็นนั้นไม่สำคัญจึงไม่ต้องหาเหตุผลมาหักล้าง หาได้มีคุณค่าใดๆ ต่อสังคมไม่ และยังเป็นตัวทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันตุลาการในที่สุด\n11. สิ่งที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งที่จะทำให้คำพิพากษาคงอยู่ในร่องในรอยของความ มีเหตุผลได้นั้น คือ การวิพากษ์วิจารณ์ตรวจสอบคำพิพากษาโดยสาธารณชนนั่นเอง\nที่บ่นมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องในนิทานเท่านั้น\n\nเครดิต : ไพร่แขนชวา\n",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1111961364931448832/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1108967777327529984",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"content": "วิกิคำคม(ตอนสุดท้าย)<br /><br />152 น้องรัก : โกหกเพียงครั้งเดียว ถูกสงสัยตลอดกาล ...ภาษิตจีน...<br /><br />153 ไร้สาระ : โรคภัยเข้าทางปาก ภัยพิบัติออกจากปาก ...ภาษิตจีน...<br /><br />154 ตายทั้งเป็น : พึงสละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะ พึงสละอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต พึงสละทั้งทรัพย์ อวัยวะและชีวิต เพื่อรักษาธรรม(ความถูกต้อง) ...พุทธสุภาษิต หมวดธรรมเบื้องต้น...<br /><br />155 ศีลขาด : ไม่มี<br /><br />156 ชะตาขาด : คนชั่วฆ่าตัวเองก่อน ภายหลังจึงฆ่าคนอื่น ...พุทธสุภาษิต หมวดตน-ฝึกตน...<br /><br />157 ไร้สติ : ความมีสติป้องกันความเลวร้ายได้ ...พุทธสุภาษิต หมวดธรรมเบื้องต้น...<br /><br />158 เสียงเพรียกจากโทรศัพท์ : คนที่กล้าจะจะพ่ายแพ้เท่านั้น ที่จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ...Robert F. Kennedy...<br /><br />159 เขาชื่อชัย : ดูคนที่การกระทำ ดูผู้นำดูที่การเสียสละ ...ภาษิตไทย...<br /><br />160 Thailand Only : ถ้ามีเมตตาจิต จะมีญาติมิตรทั่วบ้าน ถ้าเมตตาเกินประมาณ จะพบคนพาลทั่วเมือง ...พระเทพกวี (จันทรฺ์ กุสโล)...<br /><br />161 ผู้หญิงกินผัว : มารดาที่อบรมดีคนเดียวมีค่าเลิศเท่าครูร้อยคน ...ภาษิตจีน...<br /><br />162 แก้วตาผี 1 : ไม่มี<br /><br />163 แก้วตาผี 2 : ชีวิตเต็มไปด้วยขวากหนาม สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือฟันฝ่าไปโดยเร็ว สำหรับเรื่องเคราะห์ร้าย ถ้าเรายิ่งคิดมากมันก็จะทำร้ายเรายิ่งขึ้น ...วอลแตร์...<br /><br />164 เพชรในตม : เพชรแท้ย่อมส่องแสงเจิดจรัส แม้อยู่ในที่มืดเปรียบเสมือนคนดี ย่อมเปล่งประกายความดี แม้ตกอยู่ในดงโจร ...ภาษิตไทย...<br /><br />165 เพื่อนข้างห้อง : ธรรมชาติต้องการสอนให้เราอยู่ร่วมกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย บางสิ่งที่เขาขาดเราอาจมี...บางสิ่งที่เขาดีเราอาจด้อย เราเกิดมาเพื่อเติมเต็มกันและกัน ...ว.วชิรเมธี...<br /><br />166 พิษคำคน : ข่าวร้ายมักไปไกล ข่าวลือมักเหลวไหล ...ภาษิตจีน...<br /><br />167 หุ่นเชิด : การสำเหนียกว่าตัวเองไม่รู้ ถือว่าเป็นความรู้อย่างหนึ่ง ...ขงจื๊อ...<br /><br />168 คำสาปแช่ง : อย่าทำลายความหวังของใคร เพราะเขาอาจเหลืออยู่แค่นั้นก็ได้ ...H. Jackson Brown Jr....<br /><br />169 อยากตาย : ความทุกข์เกิดขึ้นจริงๆเพียงครั้งเดียว แต่ความคิดเกิดขึ้นซ้ำซากนับพันครั้ง ...ว.วชิรเมธี...<br /><br />170 Zen The Series New Year 2555<br /><br />171 ล่า : ถ้าไม่ได้ทำความดี มีชีวิตอยู่ร้อยปีก็ไร้ค่า ...คติพจน์ไทย...<br /><br />172 ลานจอดรถชั้น 13 : คนที่ทำงานผิดพลาดแล้วป่าวประกาศว่าเป็นความผิดของคนอื่น คือคนที่มีแต่จะผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนคนที่ทำงานผิดพลาด แล้วลุกขึ้นมายอมรับอย่างองอาจเปิดเผย คือคนที่ไม่มีโอกาสทำผิดพลาดซ้ำอีกเลยในชีวิต ...ว.วชิรเมธี...<br /><br />173 พลีกายชำระแค้น : การให้อภัยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่การแก้แค้นลงทุนมาก ...วิถีแห่งลัทธิเซน...<br /><br />174 เลือกเกิดไม่ได้ : คนบางคนมีชีวิตอยู่อย่างคน คนบางคนมีชีวิตอยู่คล้ายคน คนบางคนมีชีวิตอยู่โดยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคน ...อี้หมิง...<br /><br />175 บนบานศาลกล่าว : ก่อนพูด..เราเป็นนายคำพูด หลังพูด..คำพูดเป็นนายเรา ...พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ...อดีตนายกรัฐมนตรีไทย...<br /><br />176 หญิงสาวลึกลับ : ความสุขสูงสุดในชีวิตคือ การเชื่อมั่นว่ามีผู้ที่รักเรา ...วิคเตอร์ ฮิวโก้...<br /><br />177 เสียงหัวเราะเขย่าขวัญ : สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดในยามชรา คือจิตใจที่แห้งโหย มิใช่สังขารที่ร่วงโรย ...อังเดร โมรัวส์ นักเขียนชาวฝรั่งเศส...<br /><br />178 ชีวิตที่เหลืออยู่ : ตัวเราเองที่กำหนดพรหมลิขิตและเราจะเป็นในสิ่งที่เราได้กระทำ ...มาดามเจียง ไค เช็ค...",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/1108967777327529984",
"published": "2020-05-18T04:02:00+00:00",
"source": {
"content": "วิกิคำคม(ตอนสุดท้าย)\n\n152 น้องรัก : โกหกเพียงครั้งเดียว ถูกสงสัยตลอดกาล ...ภาษิตจีน...\n\n153 ไร้สาระ : โรคภัยเข้าทางปาก ภัยพิบัติออกจากปาก ...ภาษิตจีน...\n\n154 ตายทั้งเป็น : พึงสละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะ พึงสละอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต พึงสละทั้งทรัพย์ อวัยวะและชีวิต เพื่อรักษาธรรม(ความถูกต้อง) ...พุทธสุภาษิต หมวดธรรมเบื้องต้น...\n\n155 ศีลขาด : ไม่มี\n\n156 ชะตาขาด : คนชั่วฆ่าตัวเองก่อน ภายหลังจึงฆ่าคนอื่น ...พุทธสุภาษิต หมวดตน-ฝึกตน...\n\n157 ไร้สติ : ความมีสติป้องกันความเลวร้ายได้ ...พุทธสุภาษิต หมวดธรรมเบื้องต้น...\n\n158 เสียงเพรียกจากโทรศัพท์ : คนที่กล้าจะจะพ่ายแพ้เท่านั้น ที่จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ...Robert F. Kennedy...\n\n159 เขาชื่อชัย : ดูคนที่การกระทำ ดูผู้นำดูที่การเสียสละ ...ภาษิตไทย...\n\n160 Thailand Only : ถ้ามีเมตตาจิต จะมีญาติมิตรทั่วบ้าน ถ้าเมตตาเกินประมาณ จะพบคนพาลทั่วเมือง ...พระเทพกวี (จันทรฺ์ กุสโล)...\n\n161 ผู้หญิงกินผัว : มารดาที่อบรมดีคนเดียวมีค่าเลิศเท่าครูร้อยคน ...ภาษิตจีน...\n\n162 แก้วตาผี 1 : ไม่มี\n\n163 แก้วตาผี 2 : ชีวิตเต็มไปด้วยขวากหนาม สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือฟันฝ่าไปโดยเร็ว สำหรับเรื่องเคราะห์ร้าย ถ้าเรายิ่งคิดมากมันก็จะทำร้ายเรายิ่งขึ้น ...วอลแตร์...\n\n164 เพชรในตม : เพชรแท้ย่อมส่องแสงเจิดจรัส แม้อยู่ในที่มืดเปรียบเสมือนคนดี ย่อมเปล่งประกายความดี แม้ตกอยู่ในดงโจร ...ภาษิตไทย...\n\n165 เพื่อนข้างห้อง : ธรรมชาติต้องการสอนให้เราอยู่ร่วมกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย บางสิ่งที่เขาขาดเราอาจมี...บางสิ่งที่เขาดีเราอาจด้อย เราเกิดมาเพื่อเติมเต็มกันและกัน ...ว.วชิรเมธี...\n\n166 พิษคำคน : ข่าวร้ายมักไปไกล ข่าวลือมักเหลวไหล ...ภาษิตจีน...\n\n167 หุ่นเชิด : การสำเหนียกว่าตัวเองไม่รู้ ถือว่าเป็นความรู้อย่างหนึ่ง ...ขงจื๊อ...\n\n168 คำสาปแช่ง : อย่าทำลายความหวังของใคร เพราะเขาอาจเหลืออยู่แค่นั้นก็ได้ ...H. Jackson Brown Jr....\n\n169 อยากตาย : ความทุกข์เกิดขึ้นจริงๆเพียงครั้งเดียว แต่ความคิดเกิดขึ้นซ้ำซากนับพันครั้ง ...ว.วชิรเมธี...\n\n170 Zen The Series New Year 2555\n\n171 ล่า : ถ้าไม่ได้ทำความดี มีชีวิตอยู่ร้อยปีก็ไร้ค่า ...คติพจน์ไทย...\n\n172 ลานจอดรถชั้น 13 : คนที่ทำงานผิดพลาดแล้วป่าวประกาศว่าเป็นความผิดของคนอื่น คือคนที่มีแต่จะผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนคนที่ทำงานผิดพลาด แล้วลุกขึ้นมายอมรับอย่างองอาจเปิดเผย คือคนที่ไม่มีโอกาสทำผิดพลาดซ้ำอีกเลยในชีวิต ...ว.วชิรเมธี...\n\n173 พลีกายชำระแค้น : การให้อภัยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่การแก้แค้นลงทุนมาก ...วิถีแห่งลัทธิเซน...\n\n174 เลือกเกิดไม่ได้ : คนบางคนมีชีวิตอยู่อย่างคน คนบางคนมีชีวิตอยู่คล้ายคน คนบางคนมีชีวิตอยู่โดยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคน ...อี้หมิง...\n\n175 บนบานศาลกล่าว : ก่อนพูด..เราเป็นนายคำพูด หลังพูด..คำพูดเป็นนายเรา ...พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ...อดีตนายกรัฐมนตรีไทย...\n\n176 หญิงสาวลึกลับ : ความสุขสูงสุดในชีวิตคือ การเชื่อมั่นว่ามีผู้ที่รักเรา ...วิคเตอร์ ฮิวโก้...\n\n177 เสียงหัวเราะเขย่าขวัญ : สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดในยามชรา คือจิตใจที่แห้งโหย มิใช่สังขารที่ร่วงโรย ...อังเดร โมรัวส์ นักเขียนชาวฝรั่งเศส...\n\n178 ชีวิตที่เหลืออยู่ : ตัวเราเองที่กำหนดพรหมลิขิตและเราจะเป็นในสิ่งที่เราได้กระทำ ...มาดามเจียง ไค เช็ค...",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1108967777327529984/activity"
},
{
"type": "Create",
"actor": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"object": {
"type": "Note",
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1108966379480784896",
"attributedTo": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011",
"content": "วิกิคำคม(ตอนที่5)<br />116 วันใหม่ : เราเลือกได้ว่าจะให้สถานการณ์ควบคุมเรา หรือว่าเราจะเป็นคนควบคุมสถานการณ์ ...เอิร์ล ไนติงเกล...<br /><br />117 คำพิพากษาของวันวาน : ไม่มี<br /><br />118 ภายใต้คำพิพากษา : ไม่มี<br /><br />119 บทสรุปของคำพิพากษา : ไม่มีอะไรสามารถทำลายคนดีลงไปได้ ไม่ว่าจะตอนที่มีชีวิตอยู่ หรือเมื่อตายไปแล้ว ...โสเครติส...<br /><br />120 Zen The Series New Year 2010 : ไม่มี<br /><br />121 โชคชะตา : เราสร้างอนาคตของเราเอง แต่เราเรียกมันว่า \"โชคชะตา\" ...เบนจามิน ดิสแรลี อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร...<br /><br />122 ทางเบี่ยง : สิ่งที่เราเป็นคือผลของความคิดเราเอง ทุกอย่างอยู่ที่ใจ เราก็เป็นไปตามที่ใจเราคิด ...พระพุทธเจ้า...<br /><br />123 คนนอกสังคม : ทางเลือกมักเกิดขึ้นกับชีวิตเสมอ อยู่ที่ว่าเราจะเดินหน้าหรือถอยหลัง ...ภาษิตไทย...<br /><br />124 ปอบ : คนนั่นเอง เป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของคน ...ซิเซโร...<br /><br />125 โศกนาฏกรรมธรรมดา :<br /><br />เหตุการณ์การชุมนุมที่แยกราชประสงค์ มีผู้เสียชีวิต 91 คน...โดยประมาณ<br /><br />สถานการณ์อุทกภัยปลายปี 2553 มีผู้เสียชีวิต 258 คน...โดยประมาณ<br /><br />สรุปยอด 7 วันอันตรายปีใหม่ 2554 มีผู้เสียชีวิต 358 คน...โดยประมาณ<br /><br />เหตุการณ์วัดไผ่เงิน มีผู้เสียชีวิต 2002 คน ...โดยประมาณ<br /><br />126 พิศวาสฝังหุ่น : ความรักไม่เคยทำให้ใครทุกข์ การไม่รู้จักธรรมชาติของความรักต่างหากที่ทำให้เกิดทุกข์ ธรรมชาติของความรักคือ เกิดขึ้นในเบื้องต้น ดำรงอยู่ในท่ามกลาง และแตกดับในที่สุด ...ว.วชิรเมธี...<br /><br />127 เลิกทาส ๒๕๕๔ : เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาเป็นของจริง ...ม.จ.สิทธิพร กฤดากร...<br /><br />128 ภัยในลิฟท์ : ไม่มีกฎหมายใดๆที่จะแก้ไขความชั่วช้า ขาดศีลธรรมจรรยาของคนทั่วๆไปได้ ...ภาษิตตะวันตก...<br /><br />129 ปอบ 2 : ฟ้ามิได้สร้างคนให้อยู่เหนือคน และมิได้สร้างคนให้อยู่ใต้คน ...ฟุคุซาวะ เคอิชิ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเคโอ...<br /><br />130 เพื่อประชาชน : บางครั้งเราก็เหมือนคนตาบอด มีวิธีเดียวที่จะพาเรามุ่งหน้าไปได้คือการคลำทางเดินหน้าต่อไป -ภาษิตไทย-<br /><br />131 เสียงของหัวใจ : ไม่มี<br /><br />132 เหมือนฝัน : บุคคลจะเริ่มมีชีวิตที่แท้จริง ก็ต่อเมื่อเขาสามารถดำเนินชีวิตโดยหลุดพ้นจากตัวตน ...อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์...<br /><br />133 เงาของแม่ : พื้นฐานของโลกอยู่ที่แว่นแคว้น พื้นฐานของแว่นแคว้นอยู่ที่ครอบครัว พื้นฐานของครอบครัวอยู่ที่แต่ละบุคคล ...เม่งจื้อ...<br /><br />134 ยิ้มซวย : แม้จะถูกผู้อื่นเหยียบย่ำก็จงอย่าได้เหยียบย่ำตัวเองให้ต่ำลงไปอีก ...ปรัชญาตะวันตก...<br /><br />135 ล้วงลับ...ตับ! ตับ! ตับ! : สัตว์ที่ขี้ขลาดตาขาวที่สุด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องสิ่งที่มันรักอาจกลายเป็นสิ่งที่ดุร้ายที่สุด ...ปรัชญาตะวันตก...<br /><br />136 นิ่งดูดาย : ชีวิตที่ไม่มีประโยชน์ก็คือชีวิตที่กลัวตายก่อนถึงเวลาตาย ...เกอร์เต...<br /><br />137 เตียงกล่อมเด็ก : เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไร จนกว่าเราจะยอมรับมัน ...Carl Gustav Jung…<br /><br />138 ขายตรง หรือ ขายเพื่อน!? : ความสำเร็จมิได้เป็นปลายทางของความสุข ความสุขต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญไปสู่ความสำเร็จ ...เฮอร์แมน เคน...<br /><br />139 อำนาจที่ปลายนิ้ว : อำนาจที่ปราศจากเหตุผลคืออำนาจของคนพาล อำนาจที่ปราศจากความเมตตาคืออำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย ...ขงเบ้ง...<br /><br />140 เกียรติปลายไม้กวาด : ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคือผู้ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้มีเกียรติคือผู้ให้เกียรติผู้อื่น ...ภาษิตจีนโบราณ...<br /><br />141 หมอมัจจุราช : การยอมรับข้อบกพร่องของตัวเอง คือ หนึ่งในขั้นตอนแรกของการขัดเกลาตัวเอง ...มุฮัมมัด ศอลิหฺ อัลมุนัจญิด...<br /><br />142 ปอบ 3 : เสือ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงลายที่อยู่บนตัวมัน ...ภาษิตตะวันตก...<br /><br />143 ลวง หลุม พราง : จริงคือลวง ลวงคือจริง ถ้าคิดว่าข้าศึกมีทางเลือกเพียง 2 ทาง จงแน่ใจได้ว่าเขาจะมีทางเลือกที่ 3 ...ขงเบ้ง...<br /><br />144 หลุม ลวง พราง : ยิ่งมีมากเท่าใด ยิ่งต้องการมากเท่านั้น ...ภาษิตตะวันตก...<br /><br />145 วาหน : ผู้มีใจตั้งมั่นย่อมชนะฟ้า ผู้ไร้ความตั้งมั่นฟ้าย่อมชนะคน ...ภาษิตจีน...<br /><br />146 สิ่งสำคัญ : ใครๆ ก็พูดถึงความสุข แต่น้อยคนที่รู้ว่าความสุขคืออะไร ...ภาษิตตะวันตก...<br /><br />147 คืนร่าง : ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่นุ่มหรือบางกว่าน้ำ แต่การที่น้ำสามารถกัดเซาะ สิ่งที่แข็งอย่างไม่ยอมจำนนนั้น ไม่มีอะไรจะเทียบได้ ...ปรัชญาจีน...<br /><br />148 รอยโลกีย์ : ดับทุกข์ที่ทุกข์ ดับไฟที่ไฟ อย่าไปไว้คนละแห่ง คนละชาติ ...พุทธทาสภิกขุ...<br /><br />149 เงินทำบุญ : ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี ...พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี...<br /><br />150 พี่ชายที่แสนดี : Rise and Rise again, Until lambs become lions ลุกแล้วจงลุกอีก จนกว่าลูกแกะจะกลายเป็นราชสีห์ ...ภาพยนตร์เรื่อง Robin Hood…<br /><br />151 ขอรับท่าน : ตัวสกปรกก็คิดจะอาบน้ำ เท้าสกปรกก็คิดจะล้างเท้า แต่ใจสกปรกไม่คิดจะชำระ ...หยางว่านหลี่ ปราชญ์ชาวจีน...<br /><br />152 น้องรัก : โกหกเพียงครั้งเดียว ถูกสงสั",
"to": [
"https://www.w3.org/ns/activitystreams#Public"
],
"cc": [
"https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/followers"
],
"tag": [],
"url": "https://www.minds.com/newsfeed/1108966379480784896",
"published": "2020-05-18T03:56:27+00:00",
"source": {
"content": "วิกิคำคม(ตอนที่5)\n116 วันใหม่ : เราเลือกได้ว่าจะให้สถานการณ์ควบคุมเรา หรือว่าเราจะเป็นคนควบคุมสถานการณ์ ...เอิร์ล ไนติงเกล...\n\n117 คำพิพากษาของวันวาน : ไม่มี\n\n118 ภายใต้คำพิพากษา : ไม่มี\n\n119 บทสรุปของคำพิพากษา : ไม่มีอะไรสามารถทำลายคนดีลงไปได้ ไม่ว่าจะตอนที่มีชีวิตอยู่ หรือเมื่อตายไปแล้ว ...โสเครติส...\n\n120 Zen The Series New Year 2010 : ไม่มี\n\n121 โชคชะตา : เราสร้างอนาคตของเราเอง แต่เราเรียกมันว่า \"โชคชะตา\" ...เบนจามิน ดิสแรลี อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร...\n\n122 ทางเบี่ยง : สิ่งที่เราเป็นคือผลของความคิดเราเอง ทุกอย่างอยู่ที่ใจ เราก็เป็นไปตามที่ใจเราคิด ...พระพุทธเจ้า...\n\n123 คนนอกสังคม : ทางเลือกมักเกิดขึ้นกับชีวิตเสมอ อยู่ที่ว่าเราจะเดินหน้าหรือถอยหลัง ...ภาษิตไทย...\n\n124 ปอบ : คนนั่นเอง เป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของคน ...ซิเซโร...\n\n125 โศกนาฏกรรมธรรมดา :\n\nเหตุการณ์การชุมนุมที่แยกราชประสงค์ มีผู้เสียชีวิต 91 คน...โดยประมาณ\n\nสถานการณ์อุทกภัยปลายปี 2553 มีผู้เสียชีวิต 258 คน...โดยประมาณ\n\nสรุปยอด 7 วันอันตรายปีใหม่ 2554 มีผู้เสียชีวิต 358 คน...โดยประมาณ\n\nเหตุการณ์วัดไผ่เงิน มีผู้เสียชีวิต 2002 คน ...โดยประมาณ\n\n126 พิศวาสฝังหุ่น : ความรักไม่เคยทำให้ใครทุกข์ การไม่รู้จักธรรมชาติของความรักต่างหากที่ทำให้เกิดทุกข์ ธรรมชาติของความรักคือ เกิดขึ้นในเบื้องต้น ดำรงอยู่ในท่ามกลาง และแตกดับในที่สุด ...ว.วชิรเมธี...\n\n127 เลิกทาส ๒๕๕๔ : เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาเป็นของจริง ...ม.จ.สิทธิพร กฤดากร...\n\n128 ภัยในลิฟท์ : ไม่มีกฎหมายใดๆที่จะแก้ไขความชั่วช้า ขาดศีลธรรมจรรยาของคนทั่วๆไปได้ ...ภาษิตตะวันตก...\n\n129 ปอบ 2 : ฟ้ามิได้สร้างคนให้อยู่เหนือคน และมิได้สร้างคนให้อยู่ใต้คน ...ฟุคุซาวะ เคอิชิ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเคโอ...\n\n130 เพื่อประชาชน : บางครั้งเราก็เหมือนคนตาบอด มีวิธีเดียวที่จะพาเรามุ่งหน้าไปได้คือการคลำทางเดินหน้าต่อไป -ภาษิตไทย-\n\n131 เสียงของหัวใจ : ไม่มี\n\n132 เหมือนฝัน : บุคคลจะเริ่มมีชีวิตที่แท้จริง ก็ต่อเมื่อเขาสามารถดำเนินชีวิตโดยหลุดพ้นจากตัวตน ...อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์...\n\n133 เงาของแม่ : พื้นฐานของโลกอยู่ที่แว่นแคว้น พื้นฐานของแว่นแคว้นอยู่ที่ครอบครัว พื้นฐานของครอบครัวอยู่ที่แต่ละบุคคล ...เม่งจื้อ...\n\n134 ยิ้มซวย : แม้จะถูกผู้อื่นเหยียบย่ำก็จงอย่าได้เหยียบย่ำตัวเองให้ต่ำลงไปอีก ...ปรัชญาตะวันตก...\n\n135 ล้วงลับ...ตับ! ตับ! ตับ! : สัตว์ที่ขี้ขลาดตาขาวที่สุด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องสิ่งที่มันรักอาจกลายเป็นสิ่งที่ดุร้ายที่สุด ...ปรัชญาตะวันตก...\n\n136 นิ่งดูดาย : ชีวิตที่ไม่มีประโยชน์ก็คือชีวิตที่กลัวตายก่อนถึงเวลาตาย ...เกอร์เต...\n\n137 เตียงกล่อมเด็ก : เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไร จนกว่าเราจะยอมรับมัน ...Carl Gustav Jung…\n\n138 ขายตรง หรือ ขายเพื่อน!? : ความสำเร็จมิได้เป็นปลายทางของความสุข ความสุขต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญไปสู่ความสำเร็จ ...เฮอร์แมน เคน...\n\n139 อำนาจที่ปลายนิ้ว : อำนาจที่ปราศจากเหตุผลคืออำนาจของคนพาล อำนาจที่ปราศจากความเมตตาคืออำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย ...ขงเบ้ง...\n\n140 เกียรติปลายไม้กวาด : ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคือผู้ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้มีเกียรติคือผู้ให้เกียรติผู้อื่น ...ภาษิตจีนโบราณ...\n\n141 หมอมัจจุราช : การยอมรับข้อบกพร่องของตัวเอง คือ หนึ่งในขั้นตอนแรกของการขัดเกลาตัวเอง ...มุฮัมมัด ศอลิหฺ อัลมุนัจญิด...\n\n142 ปอบ 3 : เสือ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงลายที่อยู่บนตัวมัน ...ภาษิตตะวันตก...\n\n143 ลวง หลุม พราง : จริงคือลวง ลวงคือจริง ถ้าคิดว่าข้าศึกมีทางเลือกเพียง 2 ทาง จงแน่ใจได้ว่าเขาจะมีทางเลือกที่ 3 ...ขงเบ้ง...\n\n144 หลุม ลวง พราง : ยิ่งมีมากเท่าใด ยิ่งต้องการมากเท่านั้น ...ภาษิตตะวันตก...\n\n145 วาหน : ผู้มีใจตั้งมั่นย่อมชนะฟ้า ผู้ไร้ความตั้งมั่นฟ้าย่อมชนะคน ...ภาษิตจีน...\n\n146 สิ่งสำคัญ : ใครๆ ก็พูดถึงความสุข แต่น้อยคนที่รู้ว่าความสุขคืออะไร ...ภาษิตตะวันตก...\n\n147 คืนร่าง : ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่นุ่มหรือบางกว่าน้ำ แต่การที่น้ำสามารถกัดเซาะ สิ่งที่แข็งอย่างไม่ยอมจำนนนั้น ไม่มีอะไรจะเทียบได้ ...ปรัชญาจีน...\n\n148 รอยโลกีย์ : ดับทุกข์ที่ทุกข์ ดับไฟที่ไฟ อย่าไปไว้คนละแห่ง คนละชาติ ...พุทธทาสภิกขุ...\n\n149 เงินทำบุญ : ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี ...พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี...\n\n150 พี่ชายที่แสนดี : Rise and Rise again, Until lambs become lions ลุกแล้วจงลุกอีก จนกว่าลูกแกะจะกลายเป็นราชสีห์ ...ภาพยนตร์เรื่อง Robin Hood…\n\n151 ขอรับท่าน : ตัวสกปรกก็คิดจะอาบน้ำ เท้าสกปรกก็คิดจะล้างเท้า แต่ใจสกปรกไม่คิดจะชำระ ...หยางว่านหลี่ ปราชญ์ชาวจีน...\n\n152 น้องรัก : โกหกเพียงครั้งเดียว ถูกสงสั",
"mediaType": "text/plain"
}
},
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/entities/urn:activity:1108966379480784896/activity"
}
],
"id": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/outbox",
"partOf": "https://www.minds.com/api/activitypub/users/575938829702144011/outboxoutbox"
}